ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอกันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยมีนายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ รรท.ผวจ.ศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น ให้การต้อนรับ
โดย จ.ศรีสะเกษ มีปริมาณฝนตกสะสม ตั้งแต่ เม.ย.-ก.ย. 65 ประกอบกับมวลน้ำในลุ่มแม่น้ำมูลและน้ำชี ที่มีมากกว่าทุกปี อีกทั้งพายุ “โนรู” ช่วงวันที่ 28 ก.ย. 65 เกิดฝนตกหนักทั้งจังหวัด เป็นเหตุให้น้ำจำนวนมากไหลหลากเอ่อลันตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตร ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ใน 22 อำเภอ 1 เทศบาลเมือง 23 ชุมชน 168 ตำบล 1,291 หมู่บ้าน รวม 52,763 ครัวเรือน ราษฎรเดือดร้อน 178,711 คน

ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรประสบภัย 312,403 ไร่ ประกอบด้วย นาข้าว 288,942 ไร่ พืชไร่ 22,547 ไร่ พืชสวน 914 ไร่ ด้านปศุสัตว์ ได้รับผลกระทบ จำนวน 56,978 ตัว ประกอบด้วย โค 32,573 ตัว กระบือ 7,771 ตัว แพะ 50 ตัว สุกร 207 ตัว ไก่ 16,377 ตัว ส่วนด้านการประมง (บ่อปลา) 1,144.34 ไร่ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุภัยพิบัติอุทกภัย 10 ราย บาดเจ็บ 3 ราย จุดอพยพ 34 จุด พร้อมประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ทั้ง 22 อำเภอแล้ว
นายประภัตร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้กำชับให้หัวหน้าส่วนราชการ เร่งสำรวจความเสียหายทั้งหมด เพื่อรัฐบาลจะได้ช่วยเยียวยาความเสียหายตามเกณฑ์โดยเร็ว เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นทุนในการทำกินรอบใหม่ โดยนาข้าว รัฐบาลจ่ายเยียวยาไร่ละ 1,340 บาท ไม่เกิน 30 ไร่ต่อครัวเรือน ส่วนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม จะได้รับเงินเยียวยาหลังละไม่เกิน 49,000 บาท หรือตามความเป็นจริงแต่ต้องไม่เกิน 49,000 บาท

ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้ร่วมกับ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการสานฝันสร้างอาชีพและยกระดับรายได้เกษตรกร วงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อประกอบอาชีพการเกษตรที่มีตลาดรองรับพร้อมประกันราคารับซื้อ เพื่อให้เกษตรกรมีอาชีพมีรายได้ภายหลังน้ำลด โดยใช้คนค้ำประกันเอง กู้ได้รายละ 1 แสนบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี
โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นั่งเรือท้องแบนเข้าเยี่ยมประชาชนที่บ้านเทิน บ้านขาม บ้านบัวน้อย บ้านโนนเปือย บ้านหนองแสง และบ้านแวง ตำบลบัวน้อย อ.กันทรารมย์ ซึ่งมีสภาพหมู่บ้านถูกน้ำท่วมกลายเป็นติดเกาะได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,200 ครัวเรือน พร้อมมอบสิ่งของถุงยังชีพ พร้อมให้กำลังใจผู้ประสบภัยอย่างเป็นกันเองอีกด้วย