เมื่อวันที่ 21 ต.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ว่า กทม. ได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูแลปัญหาฝุ่นให้กับประชาชน โดยมีศูนย์บัญชาการปัญหาฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง เพื่อรายงานสถานการณ์ โดยประสานงานด้านข้อมูลกับกรมควบคุมมลพิษ สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้ 7 วัน พร้อมรายงานต่อเนื่องเป็นระยะ ภายใต้การติดตามปัญหาฝุ่น 5 ด้าน ประกอบด้วย

1.การเผาในพื้นที่รอบๆ กทม. เช่น จังหวัดรอบๆ กทม. รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากฝุ่นอาจถูกลมพัดลอยมาตกใน กทม. จึงได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อร่วมกันยับยั้งฝุ่นร่วมกัน

2.รถบรรทุกน้ำหนักเกิน ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักกว่าปกติและปล่อยมลพิษสู่ท้องถนน จึงประสานกับกรมการขนส่งทางบก ในการตรวจทั้งมลพิษและตรวจว่ามีการบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ ไม่ใช่ตรวจเฉพาะตอนยังไม่บรรทุกเท่านั้น

3.การเผาชีวมวลของพี่น้องเกษตรกร กทม. พบจุดเสี่ยงเดิมจากปีที่แล้ว 9 จุด กำลังเจรจากับประชาชนในพื้นที่จุดดังกล่าว เพื่อหาทางออกร่วมกัน เบื้องต้นเกษตรกรเสนอว่า หากไม่ให้มีการเผา อยากให้ กทม. หรือหน่วยงานรัฐ สนับสนุนน้ำยาย่อยสลายขยะอินทรีย์ต่างๆ รวมถึงกลวิธีที่ทำให้ย่อยสลายเร็วขึ้น เพื่อให้ใช้ทดแทนการทำลายด้วยวิธีการเผา เพราะหากไม่มีวิธีทดแทนจากภาครัฐ จะทำให้เกษตรกรไม่มีทางเลือก

4.ตรวจโรงงาน ปัจจุบัน กทม. พบโรงงานเสี่ยงก่อมลพิษแล้ว 260 แห่ง จากทั้งหมดประมาณ 6,000 แห่ง ได้สั่งการให้ ผอ.เขต ติดตามอย่างใกล้ชิดพร้อมรายงานผลอย่างต่อเนื่อง

5.มาตรการชักธงในโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนรู้จักการอ่านค่าฝุ่นและการติดตามสถานการณ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต โดยแบ่งธงเป็น 5 สี ตามระดับความรุนแรงของฝุ่นที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ ยังเป็นการทดลองการรายงานสถานการณ์ฝุ่นในโรงเรียน เพื่อจะมีการขยายมาตรการนี้สู่ชุมชนต่อไป.