สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ว่า สำนักงานคณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ว่า เรือพาณิชย์ของเกาหลีเหนือลำหนึ่งละเมิดแนวจำกัดตอนเหนือ (เอ็นแอลแอล) ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างสองเกาหลี ในทะเลเหลือง เมื่อช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ก่อนถอยออกมา เมื่อเรือตรวจการณ์ของกองทัพยิงกระสุนเตือนและประกาศเตือนผ่านทางโทรโข่ง


อย่างไรก็ตาม ต่อจากนั้นไม่นาน กองทัพประชาชนเกาหลี (เคพีเอ) หรือกองทัพเกาหลีเหนือ ออกแถลงการณ์ว่า เรือรบของเกาหลีใต้ลำหนึ่ง ละเมิดเส้นเอ็นแอลแอลทางตะวันตก จึงมีการยืงปืนใหญ่เตือนออกไป 10 นัด ขณะที่กองทัพเกาหลีใต้ยืนยันว่า เกาหลีเหนือยืงปืนใหญ่มาจริง แต่ไม่ได้ระบุว่า แล้วมีเรือรบของเกาหลีใต้ละเมิดน่านน้ำตามที่อีกฝ่ายกล่าวหารือไม่ ทว่าประณามรัฐบาลเปียงยางข่มขู่คุกคาม


ด้านทำเนียบประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์ย้ำว่า นับจากนี้ การรักษาความร่วมมือตามข้อตกลงความร่วมมือระดับทวิภาคี ฉบับปี 2561 ขึ้นอยู่กับ “ทัศนคติของเกาหลีเหนือเท่านั้น” ทั้งนี้ การกำหนดอาณาเขตของเอ็นแอลแอล เป็นไปตามกองกำลังพิเศษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นำโดยสหรัฐ และทะเลในบริเวณนี้ เป็นอาณาเขตที่ระบุชัดเจน อยู่ในข้อตกลงระหว่างสองเกาหลี ฉบับปี 2561 ห้ามมิให้ทั้งสองประเทศเคลื่อนไหวทางทหาร “ที่คุกคามและยั่วยุ”


อย่างไรก็ตาม กองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐ ปิดฉากการซ้อมรบ ภายใต้รหัสปฏิบัติการ “โฮกุ๊ก” เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังใช้เวลา 1 สัปดาห์ เพื่อส่งเสริมความพร้อมและยกระดับขีดความสามารถทางทหารของทั้งสองประเทศ ในการรับมือและตอบสนองต่อ “ภัยคุกคาม” จากการทดสอบขีปนาวุธและระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ


นอกจากนั้น มีการวิเคราะห์ด้วยว่า การที่เกาหลีเหนือเพิ่มความถี่ของการยิงขีปนาวุธในระยะนี้ “อาจเป็นสัญญาณ” ว่า การทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งต่อไป “กำลังจะเกิดขึ้น” ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 7 และเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยสำนักข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ คาดการณ์กรอบระยะเวลาไว้ระหว่างวันที่ 16 ต.ค.-7 พ.ย. ที่จะถึง.

เครดิตภาพ : REUTERS