สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อวันอาทิตย์ ประกาศการไว้อาลัยทั่วประเทศ ให้แก่ผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมเหยียบกัน ในย่านอิแทวอน ใจกลางกรุงโซล เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา และให้คำมั่นว่า รัฐบาลและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ให้กระจ่าง และต้องร่วมกันหาทางป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำรอยอีก

เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน ซึ่งได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์เหยียบกัน ในย่านอิแทวอน ที่กรุงโซล


ผู้นำเกาหลีใต้ กล่าวว่า ช่วงเวลาของการไว้อาลัยจะสิ้นสุด “เมื่อสถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุม” และภาครัฐจะใช้ช่วงเวลานี้เร่งดำเนินการฟื้นฟู พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน ยุนแสดงความเสียใจอย่างสูงสุดไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยรัฐบาลจะร่วมเยียวยาค่าใช้จ่ายในพิธีศพ พร้อมทั้งส่งกำลังใจและอวยพรให้ผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคนมีอาการดีขึ้นโดยเร็ว

พนักงานสอบสวนตรวจสอบที่เกิดเหตุในย่านอิแทวอน ซึ่งเกิดเหตุเหยียบกันจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก


ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งถือเป็นโศกนาฏกรรมการเหยียบกันของประชาชน ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ ยังไม่มีผู้ใดทราบต้นสายปลายเหตุอย่างแน่ชัด โดยสำนักข่าวยอนฮัปรายงานด้วยการอ้างแหล่งข่าวหลายกระแส ว่าผู้คนหลั่งไหลไปรวมตัวกันเพื่อใกล้ชิดดาราที่จะมาร่วมงาน ที่ยังไม่แน่ชัดว่า บุคคลมีชื่อเสียงมาร่วมงานจริงหรือไม่ และรายงานอีกกระแสหนึ่งระบุว่า อาจมีการแจกจ่ายลูกอมผสมยาเสพติดในงาน


ขณะที่สถิติผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานดับเพลิงเขตยงซาน ในกรุงโซล รายงานผู้เสียชีวิตไว้ที่อย่างน้อย 151 ราย แบ่งเป็นหญิง 97 ราย และชาย 54 ราย ในจำนวนนี้อย่างน้อย 19 ราย เป็นชาวต่างชาติ มีทั้งจากจีน อิหร่าน อุซเบกิสถาน และนอร์เวย์ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 82 คน มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วยเช่นกัน ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วงวัยประมาณ 20 ปี


อนึ่ง งานฮัลโลวีน ที่ย่านอิแทวอน เป็นหนึ่งในกิจกรรมรวมตัวครั้งใหญ่ตามสถานบันเทิงครั้งแรก นับตั้งแต่รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ยกเลิกจำกัดการรวมตัวตามสถานบันเทิงให้ไม่เกิน 10 คน และไม่บังคับสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะกลางแจ้ง เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : REUTERS