เมื่อวันที่ 31 ต.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท. อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ต. ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.บช.ภ.2 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยความคืบหน้าขบวนการสับเปลี่ยนผู้ต้องหาโดยมีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมวางแผนตบตาเจ้าหน้าที่  

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการประชุมแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความคืบหน้าในการสืบสวนคดีอุกฉกรรจ์และคดีที่น่าสนใจ จากกรณีเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธปืนบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้เสียหายซึ่งพักอยู่ที่ แอทไซด์พูลวิลล่า ถนนจอมเทียน สาย 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตนดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งสาเหตุมาจากเป็นความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์จากเว็บพนัน

โดยกลุ่มคนที่พักในพูลวิลล่า มีคนที่ทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีให้ผู้ก่อเหตุแล้วหักหลังเชิดเงินไป จนผู้ก่อเหตุบุกไปทวงคืน ตอนนี้สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุครบทั้ง 6 รายแล้ว แต่ระหว่างสืบสวน ผู้ก่อเหตุมีการวางแผนที่จะหลอกชุดจับกุมด้วยการวางแผนกับเจ้าหน้าที่รัฐในการสลับเอาคนอื่นมามอบตัวแทนผู้ก่อเหตุตัวจริง แต่จากการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบครบถ้วน จึงทราบว่ามีขบวนการสลับตัวผู้ต้องหาประกอบไปด้วย นายอรรถวุฒิ ธินามธรรม (เอ็ม ปู่ไปล่) และ นายเอกพล เอี่ยมวิสูตร ในฐานะ ผู้จ้างวานติดต่อ, นายบุญฤทธิ์ หรือฉุย จิตรมา และนายสราลัญ หรือท้อป ยอดทัด ผู้รับจ้างมามอบตัวแทนผู้ก่อเกตุที่แท้จริง จึงดำเนินคดีในความผิดฐาน “แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนได้รับความเสียหาย และช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องรับโทษ โดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม”

โดยได้เสนอสำนวนการสอบสวนให้กับอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงชลบุรีดำเนินการฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ต่อศาลแขวงชลบุรีในวันเดียวกัน เบื้องต้น ศาลแขวงชลบุรี มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสี่เป็นเวลา 1 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง (เหลือจำคุก 6 เดือน) ไม่รอลงอาญา ปัจจุบันผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้ยื่นเรื่องขอประกันตัวในวงเงินคนละ 50,000 บาท เพื่อยื่นอุทธรณ์ตามขั้นตอนต่อไป

ในส่วนเจ้าหน้าที่รัฐอีก 1 คนที่ร่วมวางแผน ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายให้การซักทอดไปยัง พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี  ว่าร่วมกันการวางแผนเปลี่ยนตัวผู้ก่อเหตุ และเรียกรับเงินถึง 1 ล้านบาท โดยดำเนินคดีความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับประโยชน์, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานฝ่ายสืบสวน ช่วยเหลือไม่ให้คนต้องรับโทษ หรือรับโทษลดลง อย่างไรก็ตามทาง พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 ได้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และให้ พ.ต.อ.กรวัฒน์ มาประจำที่ ศปก.ภ.2 เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างยุติธรรมต่อทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับรองผู้บังคับการ ก็จะต้องดำเนินคดีโดยเด็ดขาด ไม่มีละเว้น การประชุมแถลงผลนี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการทำความจริงให้ปรากฏและสร้างสังคมที่สงบสุขให้กับพี่น้องประชาชน.