เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมาย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ ในฐานะโฆษก กรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผอ.ศูนย์คดีละเมิดทางเพศเด็ก ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน (เลขสืบสวนที่ 146/2565) สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เข้าตรวจค้นจับกุม นายรวิพล พุ่มเรือง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี โดยจับกุมได้บริเวณหน้าสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์แห่งหนึ่ง ย่านถนนเกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ โดยจับกุมได้เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา

เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ฐานกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นและพาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และในวันนี้ (7 พ.ย.) กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันลงพื้นที่เพื่อนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ดำเนินคดีอาญา

สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติให้การกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก เป็นเรื่องสำคัญมาอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 12 ต.ค.65 ให้จัดตั้งศูนย์คดีละเมิดทางเพศเด็ก (Child Sexual Exploitation Crime Center-CSECC) โดยมีฐานะเทียบเท่ากองเพื่อรับผิดชอบภารกิจดังกล่าว และได้มีการสืบสวนขยายผลจากการดำเนินคดีพิเศษที่เกี่ยวกับการละเมิดทางเพศเด็กในความรับผิดชอบของกองคดีการค้ามนุษย์ พบข้อเท็จจริงว่ามีชายไทยซึ่งมีฐานะเป็นผู้ช่วยผู้กำกับการแสดงของบริษัทในวงการบันเทิงชื่อดังในประเทศแห่งหนึ่ง มีพฤติการณ์ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก และได้ใช้โอกาสในฐานะเป็นผู้ช่วยผู้กำกับการแสดงชักชวนเด็กชายหน้าตาดีหลายรายเข้าสู่วงการบันเทิง และอ้างว่าจะสอนการแสดงให้จนผู้เสียหายไว้ใจ (Grooming)

จากการสืบสวนติดตามพฤติกรรมต้องสงสัยพบหลักฐานว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายอายุ 15 ปีรายหนึ่งด้วย โดยมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็กในบ้านพักและรถยนต์ซึ่งถือเป็นภัยสังคม กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงแจ้งข้อมูลไปยังพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง สอบสวนดำเนินคดีอาญาและในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนเพื่อสืบสวนหาความเชื่อมโยงว่ามีความเกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิดรายอื่นในลักษณะองค์กรอาชญากรรมที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเคยจับกุมมาก่อนหรือไม่ (คดีเนเน่โมเดลลิ่ง)

ต่อมาศาลจังหวัดนนทบุรีได้อนุมัติออกหมายจับนายรวิพล ในคดีอาญา นำไปสู่การปฏิบัติการเชิงบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ สภ.บางบัวทอง ในการเข้าจับกุม และบูรณาการกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และองค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวด์ เรลโรด (Operation Underground Railroad : O.U.R.) สนับสนุนการตรวจเก็บวัตถุพยานอิเล็กทรอนิกส์ และพยานหลักฐานทางชีวภาพโดยนิติวิทยาศาสตร์ และนำผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบพยานหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีพิเศษก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งหากกรณีดังกล่าวพบว่าเกี่ยวพันกับคดีพิเศษที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการ ก็จะรับโอนการสืบสวนสอบสวนมาดำเนินการตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดยเร็ว

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอแจ้งเตือนไปยังผู้ปกครองว่าควรให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนให้ตระหนักถึงการล่วงละเมิดทางเพศซึ่งอาจแอบแฝงมาในรูปแบบต่าง ๆ และให้ความสนใจสังเกตพฤติกรรมของเด็กอยู่เสมอ หากพบพฤติกรรมใดที่ผิดปกติควรหาแนวทางพูดคุยเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง เพื่อจะได้แก้ไขทันต่อสถานการณ์มิให้เด็กตกเป็นเหยื่อของคนร้าย หากประชาชนทราบเบาะแสหรือต้องสงสัยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีละเมิดทางเพศเด็ก สามารถแจ้งข้อมูลมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผ่านทางเว็บไซต์ www.dsi.go.th หรือส่งเป็นหนังสือมาที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ หรือให้ข้อมูลผ่านทางสายด่วน DSI Call Center 1202 (โทรฯฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ.