เมื่อเวลา 22.40 น. วันที่ 18 พ.ย. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้าเฝ้าฯ หารือทวิภาคีกับเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และในฐานะแขกพิเศษของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ปี 2565 โดยในการหารือดังกล่าว ยังมีคณะรัฐมนตรีของไทยเข้าร่วมด้วย ได้แก่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความซาบซึ้งสำหรับการตอบรับการเสด็จพระราชดำเนินเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และการตอบรับเข้าร่วมการประชุมเอเปค ในฐานะแขกพิเศษของไทย พร้อมกล่าวถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และแสดงความยินดีที่มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความพร้อมของไทยที่จะทำงานเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างทั้ง 2 ประเทศ โดยยินดีที่ความร่วมมือทวิภาคีในทุกด้านมีความคืบหน้า และมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในทุกระดับ

ขณะที่มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบีย มีพระราชดำรัสตอบว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนซาอุดีฯ เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ได้หารือในประเด็นต่างๆ และมีการทำข้อตกลงที่ทั้ง 2 ฝ่าย ให้ความสำคัญ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกันอีกมาก โดยซาอุดีอาระเบียให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านต่างๆ กับไทย อาทิ การลงทุน สาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือและติดตามผลการดำเนินการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ และการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพระหว่างกัน โดยด้านความร่วมมือทวิภาคี การเชิญซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ปี 2565 ในฐานะแขกพิเศษ เป็นการเสริมสร้างบทบาทที่สร้างสรรค์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และได้แสดงถึงความจริงใจของไทยที่จะร่วมส่งเสริมความร่วมมือในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี ที่ไทยสามารถเป็นหุ้นส่วนของซาอุดีอาระเบียในภูมิภาคได้ ขณะที่ด้านเศรษฐกิจ ไทยย้ำความพร้อมสนับสนุนด้านความมั่นคงทางอาหาร สาธารณสุข อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ต่างๆ ในซาอุดีอาระเบีย รวมถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ไทยพร้อมร่วมมือในด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อริเริ่มซาอุดีอาระเบียตามวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย (Saudi Vision 2030) ซาอุดีอาระเบียสีเขียวและตะวันออกกลางสีเขียว และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจบีซีจีของไทย และด้วยวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับไทยและภาคเอกชนของไทยในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม อีกทั้งไทยและซาอุดีอาระเบียเห็นพ้องเรื่องความร่วมมือด้านพลังงาน โดยไทยพร้อมร่วมกับซาอุดีอาระเบียขับเคลื่อนความร่วมมือตามเอกสาร White Paper ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และด้านแรงงาน ทั้ง 2 ฝ่ายมุ่งกระชับความร่วมมือ โดยซาอุดีอาระเบียเชิญชวนให้แรงงานไทยไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย

ด้านสังคม และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ไทยยินดีที่การเดินทางไปมาระหว่างกันมีความสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณฝ่ายซาอุดีอาระเบีย สำหรับทุนการศึกษาประจำปีแก่นักเรียนและนักศึกษาของไทย โดยหวังว่าจะมีความร่วมมือกันมากขึ้น และนายกฯ ได้กล่าวเสนอให้มีการส่งเสริมความร่วมมือด้านอาชีวศึกษา ในสาขาอาหารและโภชนาการ (อาหารฮาลาล) การเกษตร ปิโตรเคมี การก่อสร้าง และอุตสาหกรรมการผลิต

ภายหลังจากการหารือข้อราชการ นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลเชิญมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงเป็นสักขีพยานร่วมในพิธีแลกเปลี่ยนเอกสาร จำนวน 5 ฉบับ ได้แก่ 1.ข้อตกลงความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย กับรัฐบาลไทย 2.บันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) การจัดตั้งสภาความร่วมมือซาอุดีอาระเบีย-ไทย 3.เอ็มโอยูว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยกับกระทรวงท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย 4.เอ็มโอยูว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมการลงทุนโดยตรง ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย และ 5.เอ็มโอยูระหว่างองค์กรกำกับดูแลและต่อต้านการทุจริต ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ราชอาณาจักรไทย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ณ โถงตึกสันติไมตรี ก่อนจะเข้าร่วมงานถวายพระกระยาหารค่ำ ในเวลาประมาณ 00.05 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก)