สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ว่า เทศบาลกรุงปักกิ่งประกาศการยกเลิกมาตรการวางแบริเออร์ หรือสิ่งกีดขวาง บริเวณทางเข้าที่อยู่อาศัยของผู้ป่วยโควิด-19 นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ระบุว่า “เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรค” ต่อการทำงานของบุคลากรการแพทย์ และการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินอื่น


ขณะที่เทศบาลเมืองกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ประกาศระงับมาตรการตรวจคัดกรองกับประชาชนเป็นวงกว้าง โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับจำนวนบุคลากรสาธารณสุข

ประชาชนในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ต่อแถวรอรับการตรวจคัดกรองโควิด-19


ด้านทางการเมืองอุรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน อนุญาตให้ผู้ประกอบการตลาดสดและภาคธุรกิจใน “พื้นที่เสี่ยงต่ำ” กลับมาเปิดกิจการได้แล้ว ส่วนเทศบาลนครฉงชิ่งประกาศว่า ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ ไม่พบผู้ติดเชื้อยืนยันในรอบ 5 วันล่าสุด ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองของรัฐ


อย่างไรก็ตาม นายจาง จวิน เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ในขณะที่หลายประเทศ “ตัดสินใจเดินไปอีกทางหนึ่งเพื่อเสรีภาพและอิสรภาพ” แต่ผลที่ตามมาคือ ยังคงมีประชาชนเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นสิ่งที่จีนไม่ประสงค์ให้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด


ด้านหนังสือพิมพ์โกลบอล ไทม์ส หนึ่งในสื่อกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รายงานว่า การปรับเปลี่ยนมาตรการทางสังคมบางอย่าง ไม่ได้หมายความว่า ความเข้มงวดของการควบคุมและการป้องกันโรคโควิด-19 จะลดน้อยลงตามไปด้วย โดยไม่มีการเอ่ยถึงการประท้วงซึ่งเกิดขึ้นตลอด 5 วันที่ผ่านมาแต่อย่างใด.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES