สื่อมวลชนสหรัฐรายงานข่าวคดีปล้นชิงทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 10 ราย ที่มีกลุ่มเป้าหมายของคนร้ายเป็นลูกค้าธนาคารในช่วงปีที่ผ่านมา ในเมืองเบอร์แบงก์ เขตลอสแองเจลิสเคาน์ตี รัฐแคลิฟอร์เนีย ตามสถิติของทางตำรวจ 

แต่เดิม การก่อคดีปล้นทรัพย์ในลักษณะนี้ก็เป็นปัญหาอยู่แล้ว แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเกิดคดีรูปแบบดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

ตามลักษณะของการชิงทรัพย์แบบ ‘ตามไปปล้น’ (Bank Jugging) นี้ คนร้ายมักจะดักรอเหยื่อที่เล็งไว้แล้ว ตามลานจอดรถของธนาคารหรือสถานที่ใกล้เคียงธนาคาร โดยเหยื่อเหล่านี้คือลูกค้าที่มาทำธุรกรรมการถอนเงินสด เมื่อเหยื่อออกมาจากธนาคาร คนร้ายก็จะลอบติดตามไปจน กระทั่งถึงจุดแวะทำธุระถัดไปของเหยื่อ จากนั้นจึงลอบงัดแงะรถของเหยื่อ เพื่อขโมยเงินที่เหยื่อมักทิ้งไว้ในรถ

นอกจากนี้ ยังมีการปล้นในลักษณะซึ่งหน้า หลังจากเหยื่อออกมาจากอาคารพร้อมเงินสด โดยคนร้ายจะใช้อาวุธปืนข่มขู่หรือรุมทำร้ายร่างกายเหยื่อ ก่อนจะชิงเงินสดของเหยื่อแล้วหลบหนีไป

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจเมืองเบอร์แบงก์ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยคดีตามไปปล้นดังกล่าวได้ 3 ราย หลังจากทีมตำรวจสืบสวนเบอร์แบงก์ เห็นกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปในลานจอดรถในย่านการ์เดนโกรฟ โดยผู้ต้องสงสัย 2 ใน 3 คน ได้รับการระบุตัวว่า เป็นผู้ต้องสงสัยของคดีก่อนหน้านี้ด้วย

ทางตำรวจเชื่อว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัยจะต้องเคยก่อคดีมากกว่าที่จับได้ และยังคงเปิดการสืบสวนต่อไป เพื่อสืบหาตัวผู้ที่อาจเคยตกเป็นเหยื่อ นอกจากนี้ ทางตำรวจยังแนะนำให้ประชาชนระมัดระวังและหมั่นสังเกตสถานการณ์รอบตัว เมื่อต้องเดินทางไปทำธุรกรรมถอนเงินสดที่ธนาคารหรือเครื่องเอทีเอ็ม และเมื่อถอนเงินออกมาแล้ว ก็ควรซ่อนเงินให้มิดชิด อย่าถือซองใส่เงินโดยเปิดเผย

ตำรวจยังแนะนำว่า ไม่ควรแวะทำธุระอื่นใดหลังจากที่ไปธนาคารแล้ว ควรรีบกลับสู่สถานที่ปลอดภัยในทันที และไม่แนะนำให้ทิ้งเงินสดที่เบิกออกมาไว้ในรถยนต์ 

แหล่งข่าว : latimes.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES