เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ศาลแขวงดุสิต ถนนนครไชยศรี พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้ขอผัดฟ้องฝากขัง นายธนเดช ศรีสงคราม หรือ ม่อน อาชีวะ อายุ 36 ปี แกนนำ”กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน” รวมทั้งสิ้น 4 สำนวนในความผิดเกี่ยวกับการฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 ห้ามชุมนุมก่อให้เกิดการแพร่ระบาคของโรคโควิด-19 และ ความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง

โดยสำนวนแรก ผ 229/2564 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า วันที่ 26 มิ.ย. เวลา 14.30-22.00 น. ผู้ต้องหาและกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้ชื่อว่า ”ไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชน” เพื่อประเทศไทย ทยอยกันชุมนุมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนราชดำเนินนอก เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และมีการตั้งเวทีปราศรัยโดยใช้เครื่องขยายเสียง เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งคนเข้าร่วมมากกว่า 200 คน สำนวนนี้ต้องสอบพยานอีก 4 ปากรอผลการตรวจรอยพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาและประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา

สำนวน ผ 230/2564 พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. เวลา 14.45 – 22.05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ พบเห็นการนัดผู้ต้องหา และกลุ่มผู้ชุมนุม ชื่อกลุ่มไทยไม่ทนฯ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ ทำกิจกรรมขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อรัฐสภาเลือกบุคคลอื่นที่มีความสามารถมากกว่ามาบริหารบ้านเมือง ในสถานการณ์วิกฤติ โดยมีการตั้งเวทีเครื่องเสียง ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทำกิจกรรมโดยการแสดงดนตรีและปราศรัยหน้าเวทีผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป มียอดผู้ชุมนุมประมาณ 80 คน

สำนวนนี้ต้องสอบพยานอีก 4 ปากรอผลการตรวจรอยพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาและประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา สำนวน ผ 231/2564 พฤติการณ์คือเมื่อวันที่ 3 ก.ค. เวลา 15.00 – 23.00 น. ผู้ต้องหาและ กลุ่มไทยไม่ทนฯ ได้รวมตัวชุมนุมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีลาออกและจัดกิจกรรมรวมพลังแม่น้ำร้อยสายเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลฝั่งโรงเรียนราชวินิต ต่อมาเวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยุติการชุมนุมที่บริเวณแยกผ่านฟ้า และเคลื่อนขบวนไปตามถนนนครสวรรค์ มุ่งหน้าแยกนางเลิ้ง และตั้งเวทีปราศรัยอีกครั้งโดยผู้ชุมนุมมีการนำรถยนต์ตั้งเป็นเวทีและติดเครื่องเสียงเพื่อใช้ปราศรัยและแสดงดนตรีมียอดผู้ชุมนุมประมาณ 500 คน สำนวนนี้ต้องสอบพยานอีก 5 ปากรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาและประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา

สำนวน ผ 232/2564 พฤติการณ์คือเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 64 เวลา 15.00-21.10 น. ผู้ต้องหากับพวกได้นัดหมายรวมตัวกันที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ ถนนพระราม 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี เพื่อชุมนุมและทำกิจกรรมใช้ชื่อว่า “เปิดท้ายวันศุกร์ลุกไล่เผด็จการ” ได้เคลื่อนขบวนจากแยกอุรุพงษ์ไปตามถนนพิษณุโลก มุ่งหน้าแยกพาณิชย์ แขวงจิตรลดา เขตดุสิต เมื่อไปถึงแยกพาณิชย์ จึงได้หยุดตั้งเวที ก่อนจะมีผู้ชุมนุมนำรถยนต์ติดตั้งเครื่องเสียง ทำกิจกรรมแสดงดนตรีบนเวทีและขึ้นเวทีปราศรัยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปซึ่งมีจำนวนผู้ชุมนุมประมาณ 200 คน สำนวนนี้ต้องสอบพยานเพิ่มอีก 5 ปาก และรอผลตรวจอื่นๆ

 ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาทั้ง 4 สำนวน ทุกสำนวนพนักสอบสวน สน.นางเลิ้ง ขอศาลผัดฟ้องฝากขังผู้ต้องหา ระหว่างการสอบสวน 6 วันนับตั้งแต่วันที่ 19 – 24 ส.ค. 2564 และขอคัดค้าน เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันหลายคดีซึ่งได้กระทำผิดซ้ำซากไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาได้มีทนายยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว และศาลแขวงดุสิตพิจารณาแล้วอนุญาตให้นายธนเดช หรือม่อน อาชีวะ ประกันตัวโดยตีราคา สำนวนละ 20,000 บาท