ในที่สุด ลิโอเนล เมสซี ก็คว้าแชมป์โลกมาครองสำเร็จในความพยายามครั้งที่ 5 ทำให้ตอนนี้ แทบไม่มีข้อสงสัยใดๆ อีกแล้วว่า เขาคือหนึ่งในสุดยอดตำนานนักเตะตลอดกาาลของโลกอย่างแท้จริง

ตลอดอาชีพการค้าแข้งอันเหลือเชื่อของซูเปอร์สตาร์ วัย 35 ปี เขาขีดเขียนสถิติต่างๆ เอาไว้มากมายให้ทั้งสโมสร และทีมชาติ

แต่สิ่งที่ เมสซี แสดงให้ชาวโลกเห็นที่กาตาร์ ได้ทำให้เขาสร้างตำนานบทใหม่เอาไว้อีกมากมาย ชนิดที่คงจะหาใครมาทำลายได้ยากยิ่ง

ต่อไปนี้คือสถิติเหลือเชื่อที่ ลิโอเนล เมสซี สร้างเอาไว้ในเวิลด์คัพ 2022

1) การลงสนาม
เมสซี ลงเล่นฟุตบอลโลกนัดที่ 22 ให้ อาร์เจนตินา ในเกมรอบแรก นัดสุดท้ายกับ โปแลนด์ ทำให้เขาทำลายสถิติลงเล่นในฟุตบอลโลกให้อาร์เจนตินามากที่สุดของ ดีเอโก มาราโดนา ลงสำเร็จ

หลังจากนั้น เมสซี ลงเล่นต่อเนื่องอีก 4 เกม ทำให้ยอดรวมเป็น 26 เกม ทำลายสถิตินักเตะที่ลงเล่นในเวิลด์คัพมากที่สุดตลอดกาลของ โลธาร์ มัทเธอุส อดีตซูเปอร์แมนของเยอรมนี ลงอีกอย่าง

2) ประตู
กาเบรียล บาติสตูตา ทำถึง 10 ประตู ในฟุตบอลโลกให้ อาร์เจนตินา เขาคงคิดว่า ไม่มีใครสามารถทำลายสถิติของเขาได้

แต่ประตูจากจุดโทษในเกมรอบรองชนะเลิศกับ โครเอเชีย ทำให้ เมสซี ซัดในบอลโลก 11 ลูก ทำลายสถิติของ “บาติโกล” ลงได้สำเร็จ

และ 2 ประตูของเขาในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้ยอดรวมของ เมสซี ขยับขึ้นเป็น 13 ประตู ถือว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 4 ร่วมตลอดกาล

ก่อนเกมชิงดำ เมสซี ยังยิงได้มาทุกรอบไล่ตั้งแต่เกมกับ ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก, ออสเตรเลีย และ เนเธอร์แลนด์

ส่วนสถิติยิงประตูมากที่สุดในฟุตบอลโลก ยังคงเป็นของ มิโรสลาฟ โคลเซ อดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมนี ที่ 16 ประตู

3) แอสซิสต์
เกมรอบแรก นัดที่ 2 อาร์เจนตินา ลงเล่นในเกมที่ “ต้องชนะ” กับ เม็กซิโก หลังจากที่เปิดสนามด้วยการแพ้พลิกล็อกช็อกโลกต่อ ซาอุดีอาระเบีย

ความหวังของคนทั้งชาติตกมาอยู่ที่ไหล่ทั้ง 2 ข้างของ ลิโอเนล เมสซี อย่างช่วยไม่ได้

และเขาก็ไม่ทำให้คนทั้งประเทศผิดหวัง เมื่อซัดไกลเป็นประตูแรกให้ทีมฟ้าขาวออกนำ ก่อนที่จะแอสซิสต์ให้ เอ็นโซ เฟอร์นานเดซ ทำประตูที่ 2 ช่วยให้ทีมคว้า 3 แต้มสำคัญ

การแอสซิสต์ให้ เฟอร์นานเดซ ทำประตูนี้ ทำให้ เมสซี กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของโลกที่ทำแอสซิสต์ได้ทุกครั้งในการลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 5 ครั้ง

เวิลด์คัพ 4 ครั้งก่อนหน้านี้ เขาก็เคยจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูมาแล้ว ไล่ตั้งแต่ 2006, 2010, 2014, 2018 และตอนนี้ 2022

แต่นั่นยังไม่ใช่สถิติทั้งหมด เพราะการที่เขาทั้งยิงทั้งจ่ายในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ยังทำให้ เมสซี กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุด และอายุมากที่สุด ที่ทั้งยิงเองทั้งจ่ายให้เพื่อนยิงได้ในฟุตบอลโลก 1 เกม

เมสซี เคยเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ที่ทั้งยิงทั้งจ่ายใน 1 เกมตอนเวิลด์คัพ 2006 กับ เซอร์เบีย ขณะที่อายุแค่ 18 ปี และการที่เขาทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมกับ เม็กซิโก นัดนี้ ทำให้เขาเป็นนักเตะอายุมากที่สุดที่ทำได้ ในวัย 35 ปี

นอกจากนั้น ลูกแอสซิสต์อันเหลือเชื่อที่เขาจ่ายให้ นาฮูเอล โมลินา ยิงประตูแรกในเกมกับ เนเธอร์แลนด์ ในรอบ 8 ทีม ยังถูกยกให้เป็นแอสซิสต์ที่สวยที่สุดในบอลโลกครั้งนี้ด้วย

ขณะที่การโซโล่ลากเลื้อยจากแดนตัวเองแล้วโยกหลอก ยอสโก กวาดิโอล กองหลังทีมชาติโครเอเชียครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนใส่พานให้ จูเลียน อัลวาเรซ ทำประตูที่ 3 ในเกมรอบตัดเชือก นอกจากนั้นจะเป็นหนึ่งในการลากเลื้อยที่ดีที่สุดของบอลโลกแล้ว

ยังทำให้ เมสซี ทำแอสซิสต์ในบอลโลกครั้งที่ 8 เท่ากับ ดีเอโก มาราโดนา

4) กัปตันทีม
เมสซี ทำลายอีกหนึ่งสถิติของ มาราโดนา ในบอลโลกที่กาตาร์

“เสือเตี้ย” สวมปลอกแขนกัปตันทีม นำทีมฟ้าขาวลงสนามในเวิลด์คัพ 16 นัด และ เมสซี ก็ทำสถิติเทียบเท่า หลังนำทีมลงสนามในเกมรอบรองชนะเลิศกับ โครเอเชีย

หมายความว่า เกมนัดชิงชนะเลิศกับ ฝรั่งเศส คือการเป็นกัปตันทีมในบอลโลกนัดที่ 17 ของ เมสซี ทำลายสถิติของ มาราโดนา อีกแล้ว

แต่นั่นคงไม่ได้ทำให้ มาราโดนา โกรธอะไร และป่านนี้คงนั่งดูความสำเร็จของ เมสซี และอาร์เจนตินา อย่างสบายใจอยู่บนสวรรค์.