เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า กรณีมีโพลเสนอผลสำรวจเรื่องเปิดใจคนไทย อนาคต การเมือง และปัจจัยสำคัญที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีคะแนนนิยมลดลงอยู่อันดับท้ายๆ มาจากปัจจัยสำคัญคือ ความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนเรื่องปัญหาปากท้อง รายได้ ค่าครองชีพ อาชีพการงาน ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนได้เลย ทั้งๆ ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่กลับปล่อยให้นายทุนรายใหญ่ ขึ้นราคาสินค้าตามใจชอบ กดขี่ผู้ประกอบการรายย่อย กินรวบตลาดค้าปลีก ค้าส่ง ส่งผลกระทบให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
ที่ผ่านมา รัฐบาลปล่อยปละละเลยไม่สะสางปัญหาการที่กลุ่มทุนสีเทา สามารถเปิดบ่อนการพนัน ทั้งบนดินและออนไลน์ ขายยาเสพติด สร้างปัญหาให้กับสังคมไทย กระทบต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนในห้วงเวลาที่ยาวนาน เพราะหากไม่มีอำนาจอื่นมาหนุนคนกลุ่มนี้ จะเข้ามามีอิทธิพลไม่ได้อย่างแน่นอน ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ สั่งให้กำลังพลจับตากลุ่ม นักศึกษาที่จัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย แต่กลับไม่ดำเนินการกับกลุ่มทุนสีเทาที่ขยายอิทธิพลและสร้างความมั่งคั่งของธุรกิจสีเทาในประประเทศ
นอกจากนี้ปัญหาคอร์รัปชั่นที่ขยายตัวมากขึ้น แม้แต่องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ เผยแพร่ดัชนีภาพลักษณ์ การคอร์รัปชั่นในภาครัฐทั่วโลก ผลปรากฏว่า พบว่าอันดับของประเทศไทยในปีนี้ ถูกจัดอยู่ที่อันดับที่ 110 จาก 180 ประเทศ นับว่าเป็นอันดับต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เป็นการชี้ให้เห็นว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าเข้ามาปราบทุจริต เป็นเพียงวาทกรรมเท่านั้น เพราะแม้ฝ่ายค้านจะชี้เป้าให้ตรวจสอบไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ที่ไม่โปร่งใส การจัดซื้อถุงมือยางที่เสียหายไปหลายพันล้าน พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่ดำเนินการ ส่งผลให้ชาวบ้านมีคำถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ กลัวอะไร จึงไม่จัดการการทุจริต ภายในรัฐบาลหรือกลัวตกเก้าอี้นายกฯ
“ที่น่าประหลาดใจคือ เหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ขณะลาดตระเวนประสบเหตุการณ์พายุคลื่นลมแรงกลางทะเลอ่าวไทย บริเวณพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้กำลังพลกว่า 100 นายบนเรือ ต้องลอยคอกลางทะเล เพื่อรอความช่วยเหลือ แม้สามารถช่วยเหลือได้รวม 76 นาย ที่เหลืออีก 30 นาย ยังไม่พบ ล่าสุดมีรายงานว่า จากการค้นหาพบผู้เสียชีวิต 6 ราย รอดชีวิต 1 ราย ยังเหลือที่ยังไม่พบอีก 22 ราย น่าประหลาดใจว่า ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ รมว.กลาโหม กลับไม่ให้ความสำคัญมากนัก แต่ให้ความสำคัญกับการเดินสายหาเสียงเพื่อการเมือง มากกว่าการเร่งช่วยเหลือกำลังพลที่สูญหายจากการอับปางของเรือรบหลวงที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดความสูญเสียกำลังพลเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นเป็นผู้นำเหล่าทัพ กลับไม่ให้ความสำคัญกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น“ นายวิสาร กล่าว.
