สื่อท้องถิ่นเกาหลีใต้รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า มีหญิงชาวเกาหลีใต้ในวัย 50 ปีคนหนึ่ง สมมุติชื่อว่า นาง ‘เค’ โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและส่งขึ้นศาล เพื่อดำเนินคดีในระหว่างที่เธอโดนกักตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะต้องสงสัยว่าอาจได้รับเชื้อโควิด-19  

นางเคโดนจับเนื่องจากมีผู้ส่งข่าวให้ตำรวจว่า เธอวางแผนที่จะบริจาคชิ้นเนื้อจากตับของเธอ เพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินจำนวนหนึ่ง รวมทั้งตำแหน่งงานในบริษัทสำหรับลูกชายของเธอ 

ก่อนหน้านี้ ในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา นางเคได้ข่าวว่า ประธานคณะกรรมการบริหารของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งกำลังป่วยหนัก และต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนตับ จากนั้น เพื่อนของเธอก็แนะนำให้เธอได้พบพนักงานคนหนึ่ง สมมุติว่าชื่อ นาย ‘เอ็น’ ผู้อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนของประธานบริษัทก่อสร้างดังกล่าว ซึ่งเป็นลูกชายของประธานใหญ่ที่ล้มป่วย

ระหว่างการพบปะพูดคุยกับนายเอ็น นางเคกล่าวว่า เธอยินดีบริจาคตับให้ผู้ป่วย โดยแลกเปลี่ยนกับเงินจำนวน 100 ล้านวอน (ราว 2,720 ล้านบาท) พร้อมกับตำแหน่งงานในบริษัทให้ลูกชายของเธอ 

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2565 นางเคได้แอดมิทเข้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงโซล เพื่อตรวจร่างกายก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัดเพื่อบริจาคตับ โดยเธอปลอมตัวเป็นลูกสะใภ้ของประธานใหญ่ที่ล้มป่วย ซึ่งจะเป็นผู้รับบริจาคตับของเธอ

สัปดาห์ถัดมา เธอได้รับการรับรองและลงทะเบียนว่าเป็นผู้บริจาคอวัยวะโดยสถาบันบริหารคลังเลือด เนื้อเยื่อและอวัยวะแห่งชาติเกาหลีใต้ แต่หลังจากที่เข้าพักในโรงพยาบาลเพื่อเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัด เธอก็ติดเชื้อโควิด-19 เสียก่อน จึงต้องเลื่อนการผ่าตัดออกไป ขณะเดียวกัน นางพยาบาลที่ดูแลเธออยู่ก็สังเกตเห็นความผิดปกติในความสัมพันธ์ของผู้ให้และรับบริจาคอวัยวะ จึงตัดสินใจแจ้งหน่วยงานว่ากรณีของนางเค อาจเข้าข่ายการซื้อขายอวัยวะ

ในระหว่างที่การสืบสวนดำเนินไปนั้น ประธานใหญ่ที่ป่วยหนักก็เสียชีวิตในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ส่วนนางเคและผู้เกี่ยวข้องโดนกล่าวหาว่า ละเมิดกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะของเกาหลีใต้ ซึ่งไม่อนุญาตให้มีการบริจาคหรือรับบริจาคโดยแลกเปลี่ยนกันเงินทองหรือผลประโยชน์ทางการเงินอื่น ๆ 

แม้นางเคจะอ้างว่าเธอไม่รู้ว่าการกระทำของตนเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ศาลเกาหลีใต้ก็ตัดสินโทษ โดยการสั่งปรับนางเคเป็นเงิน 3 ล้านวอน (ราว 81,530 บาท) ส่วนนายเอ็นได้รับโทษจำคุก 6 เดือน แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี นอกจากนี้ ยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดอีกรายหนึ่งที่ได้รับโทษจำคุก 1 ปี

แหล่งข่าว : english.hani.co.kr

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES