จากกรณีเหตุ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนชื่อดังใน จ.นนทบุรี ก่อเหตุผูกคอตัวเองเสียชีวิตในป่า ซอยติวานนท์-ปากเกร็ด 34 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สาเหตุจากเครียดเรื่องที่โดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปหลายหมื่นบาท อีกทั้งเงินดังกล่าว เป็นเงินที่ได้จากการไปขโมยมาจากพ่อแม่ของตัวเอง ถึงขนาดเขียนจดหมายขอโทษ และทิ้งข้อความไว้ในไลน์ ทำนองว่า เป็นเพราะความโลภของตัวเอง ทำให้ถูกมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไป หลังจากที่ตัวเองเสียชีวิตแล้ว ขอให้ติดตามเอาผิดแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ให้ด้วย และอยากให้ลงข่าวบอกเด็ก ๆ อย่าไปหลงเชื่อ เพื่อเป็นอุทาหรณ์

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี เปิดเผยว่า หลังจากสูญเสียลูก ตนได้ตรวจสอบแชตข้อความในไลน์และเฟซบุ๊กแล้ว ทำให้ทราบว่า ลูกชายไปร่วมลงทุนกับกลุ่มมิจฉาชีพ โดยมีการจ่ายเงินสมัครเข้าทำงานดูคลิปยูทูบ เริ่มแรก ได้เงินหลักร้อย ก่อนจะอีกฝ่ายจะหลอกล่อให้ลงทุนเพิ่ม แล้วจะได้เงินเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งสุดท้ายได้เสียเงินนับหมื่นบาท ปกติลูกชายเป็นคนร่าเริง แต่ไม่ค่อยพูด เหตุที่คิดสั้นคงเพราะโดนหลอก แต่ไม่อยากบอกพ่อแม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าจะติดตามให้ หลังจากนี้จะนำศพน้องไปไว้ที่วัดบางพูดใน 3 วัน ตนอยากให้คนที่มาหลอกน้องไปลงทุน หยุดการกระทำ เพราะมันเป็นภัยต่อสังคม และเด็ก ๆ ยังไม่รู้จักโลกกว้าง น้องอายุเพียง 15 ปี เรียนอยู่ ม.3 กำลังจะขึ้น ม.4 ที่โรงเรียนปากเกร็ด และเป็นเด็กเรียนดี

ขณะเดียวกัน ที่วัดบางพูดใน ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สถานที่จัดงานศพ นายเอ บรรยากาศที่ตั้งศาลาศพ ต่างเต็มไปด้วยนักเรียนและครูจากโรงเรียนของ นายเอ โดยเหล่าเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมชั้นเรียน ต่างเดินทางมาเคารพศพกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณข้างโลง มีกลุ่มเพื่อนนักเรียนเข้าไปเคาะโลงศพ ร้องไห้เสียใจเป็นอย่างมาก ภายหลังกล่าวว่า นายเอ เป็นคนเรียนเก่งมาก ได้เกรดเฉลี่ยเกือบ 4 ทุกเทอม อยากให้ตำรวจจับกุมแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ให้ได้ และขอให้พ่อแม่ของเพื่อน เอาเรื่องให้ถึงที่สุดด้วย

ด้าน นางเก๋ (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกชายน่าจะมาเล่าปัญหาให้ฟัง เพราะจะได้ช่วยกันหาหนทางแก้ไข รวมทั้งปลอบใจไม่ให้คิดสั้นแบบนี้ อยากให้ตำรวจติดตามจับกุมแก๊งมิจฉาชีพให้ได้ ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ยอมรับว่า ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ เช่นเดียวกับพี่สาวของ นายเอ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุยังเห็นน้องชายนั่งดูยูทูบ ในอาการสนุกสนาน ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เคยเห็นน้องโอนเงินไปให้เพจของแก๊งมิจฉาชีพ จึงได้เตือนว่าการลงทุนมีความเสี่ยง คงไม่ใช่กำไรแบบที่เขาโฆษณาอย่างแน่นอน แต่เพราะน้องไม่เชื่อ เห็นอีกฝ่ายโพสต์ว่า ลงทุนหลักร้อยได้หลักพัน ลงทุนหลักพันได้หลักหมื่น สุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้.