เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเทพมงคลวัชราจารย์ หรือ “หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม” เจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง (ธ) จ.บุรีรัมย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะ จ.บุรีรัมย์ (ธ) ได้ละสังขารลงแล้วด้วยอาการสงบ ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เวลา 02.45น. วันที่ 10 ม.ค. 2566 สิริอายุ 95 ปี  76 พรรษา ทั้งนี้ “หลวงปู่เหลือง” นับเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคอีสาน ท่านเป็นศิษย์อาวุโสรูปหนึ่งของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร และพระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) วัดรังสีปาลิวัน จ.กาฬสินธุ์

สำหรับประวัติ พระเทพมงคลวัชราจารย์ หรือ “หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม”  มีนามเดิมว่า เหลือง ทรงแก้ว เกิดวันอังคารที่ 1 พ.ค. 2470 ที่บ้านนาตรัง หมู่ 2 ต.เขวาสินรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ หลังเรียนจบชั้น ม.3 ขณะอายุ 15 ปี ได้ออกจากบ้านเดินตามพระพี่ชาย คือ พระครูสมุห์ฉัตร ธัมมปาโล และพระอาจารย์สมุห์เสร็จ ญาณวุฑโฒ สองศิษย์เอกหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม จากสุรินทร์ไปถึงนครราชสีมา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ระยอง มีโอกาสได้พบครูบาอาจารย์หลายรูป อาทิ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล, พ่อท่านลี ธัมมธโร วัดป่าคลองกุ้ง เป็นต้น

จากนั้นได้เข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ฝั้น ขณะอายุ 17 ปี บรรพชาที่วัดสุทธจินดา จ.นครราชสีมา มีพระโพธิวงศาจารย์ (สังข์ทอง นาควโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดสุทธจินดา มีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธัมมธโร) เมื่อดำรงสมณศักดิ์ที่พระญาณดิลก เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาเขียน ฐิตสีโล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสมุห์ฉัตร ธัมมปาโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังอุปสมบทก็อยู่จำพรรษาที่วัดป่าศรัทธาราม ทั้งปฏิบัติและเรียนนักธรรมไปพร้อมกัน พ.ศ. 2490 สอบได้นักธรรมชั้นเอก

ต่อมาย้ายไปอยู่วัดป่าศรัทธาราม สวดปาติโมกข์ และช่วยสอนนักธรรมพระอาจารย์บุญมาที่อยู่วัดศาลาทอง ก่อนไปพำนักอยู่ที่วัดป่าสาละวัน ใกล้เข้าพรรษา พระอริยเวที วัดสุทธจินดา พาไปจำพรรษาที่ จ.กาฬสินธุ์ ครั้งหนึ่งท่านไปช่วยสวดปาฏิโมกข์และสอนนักธรรมที่วัดป่าสักกาวัน อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ก่อนย้ายกลับมาอยู่จำพรรษาที่วัดรังสีปาลิวัน บ้านโพน เพื่อตั้งใจฝึกปฏิบัติ และคอยช่วยสอนนักธรรมให้พระ พร้อมกับอบรมทายกทายิกาเกือบทุกวันในตลอดพรรษา ก่อนที่ พ.ศ. 2515 จะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง ซึ่งวัดแห่งนี้เดิมเป็นวัดที่พระอาจารย์สมุห์เสร็จ พี่ชายเป็นคนบุกเบิกสร้างไว้

นอกจากนี้ “หลวงปู่เหลือง” ยังเคยดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะสงฆ์ ประกอบด้วย พ.ศ. 2479 เป็น เจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ (ธ) พ.ศ. 2515 เป็น เจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง พ.ศ. 2519 เป็น พระอุปัชฌาย์ พ.ศ. 2521 เป็น เจ้าคณะอำเภอเมืองบุรีรัมย์ (ธ) พ.ศ. 2522 เป็น รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธ) พ.ศ. 2523 เป็น เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธ) พ.ศ. 2550 เป็น ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธ) ส่วนลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ. 2527 เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระชินวงศาจารย์ พ.ศ. 2535 เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชปัญญาวิสารัท พ.ศ. 2565 เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพมงคลวัชราจารย์

“หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม” นับเป็นพระมหาเถระที่ควรแก่การอัญชลี ท่านเจริญรอยตามครูบาอาจารย์ของท่าน แน่วแน่กับการปฏิบัติภาวนาไม่เสื่อมคลาย อยู่อย่างสมถะ เรียบง่าย แทบไม่มีใครจำสมณศักดิ์ของท่านได้เรียกกันแต่ว่า “หลวงปู่เหลือง วัดกระดึงทอง”.