ถือได้วว่า เป็นอีกข่าวใหญ่ที่สังคมไทยต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่มีการแฉพฤติกรรมสุดฉาวของ “อดีตรองนายกรัฐมนตรี” ที่เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน อีกทั้งยังพบว่ามีพฤติกรรมข่มขู่ จนทางด้านสามีของฝ่ายหญิง ต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมผ่าน “ทนายตั้ม”

แต่สำหรับใครที่ยังงง สับสนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร “เดลินิวส์” ได้ลำดับเหตุการณ์เรื่องราวทั้งหมด มีไทม์ไลน์เหตุการณ์ จนถึงวันที่ 10 ม.ค. 66 ดังนี้

วันที่ 7 ม.ค. 2566
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หรือ “ทนายตั้ม” ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุผู้เสียหายมาขอคำปรึกษาทางกฎหมายในการฟ้องชู้ หลังพบว่าพฤติกรรมของภรรยาเปลี่ยนไป โดยเมื่อค้นดูในโทรศัพท์ก็ต้องพบเรื่องราวสุดช็อก เพราะมีภาพของภรรยาไปถ่ายภาพเปลือยคู่ “อดีตรองนายกรัฐมนตรี” ที่ใครๆก็รู้จัก!
-ผัวช็อก! เมียเปลี่ยนไป-เอะใจแอบเช็กมือถือ ตะลึงเจอรูปเปลือยถ่ายคู่อดีตรองนายกฯ

วันที่ 8 ม.ค. 2566
“ทนายตั้ม” ได้เผยถึงที่มา ที่ตัดสินใจเดินหน้าเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่าทางฝ่ายสามีเข้ามาปรึกษาตั้งแต่ปีที่แล้ว ว่าอยากฟ้องชู้ ซึ่งที่ผ่านมาถูก “อดีตรองนายกรัฐมนตรี” คุมคาม และข่มขู่มาตลอด เลยอยากให้เรื่องดังกล่าวออกสู่สาธารณะเพื่อเป็นพฤติกรรม

นอกจากนี้ ทนายตั้มยังได้มีการเผยแชทที่มีการอ้างว่าเป็นฝ่ายภรรยาของผู้เสียหาย และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการใช้สรรพนามแทนตัวกันว่า “ผัว-เมีย” สุดหวาน อีกทั้งยังมีการเผย “ตัวย่อ ย.” ขึ้นมาในอินสตาแกรมสตอรี่ จนทำให้หลายๆคนสันนิษฐานกันว่า นี่คือคำใบที่โยงไปถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรีสุดฉาว
-‘ทนายตั้ม’เปิดแชตสุดสยิว’ อดีตรองนายกฯ’กับเมียชาวบ้านแถมข่มขู่หนัก!

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้พูดถึงกระแสข่าวว่า “อดีตนายกรัฐมนตรี” ป็นคนของพรรคเพื่อไทยว่าอยู่ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยขอยืนยันไม่มีหลังไมค์ล็อบบี้ “ทนายตั้ม” หวั่นพังทั้งคู่ ขอดูพฤติกรรมโยงมาสมัยปัจจุบันหรือไม่

วันที่ 9 ม.ค. 2566
“ทนายษิทรา” ได้ชี้แจง ว่าการออกมาแฉนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองถือเป็นคดีความส่วนตัว เผยคำใบ้ชัด บอกไปต้องรู้จัก เพราะอดีตรองนายกรัฐมนตรีอักษรย่อ “ย.ยักษ์” เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ที่ชอบกีฬากอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย เพราะออกจากพรรคตั้งแต่ปี 2561
-คนนี้เอง! ‘ทนายษิทรา’ ไลฟ์สดเปิดคำใบ้ชัดแล้ว อดีตรองนายกฯ ชอบตีกอล์ฟ เป็นชู้เมียชาวบ้าน

ในช่วงบ่าย โลกออนไลน์ก็ต้องตกตะลึงไปตามๆกัน ภายหลังจากที่มีการเปิดภาพลับสุดสยิว ขณะร่วมรักกับสาวที่ปรากฏในข่าวสภาพล่อนจ้อน ในสถานที่แห่งหนึ่งอย่างถึงพริกถึงขิง แล้วปรากฏว่าหญิงสาวเป็นผู้ถ่ายภาพขณะบรรเลงเพลงรักผ่านกระจก โดยพบว่าภาพดังกล่าวนั้นฝ่ายหญิงถ่ายเก็บไว้ ถือเป็นหลักฐานดิ้นไม่หลุด
-เปิดภาพลับสุดสยิว! มัดชัด ‘อดีตรองนายกฯ’ บรรเลงเพลงรัก เป็นชู้เมียชาวบ้าน

ท่ามกลางกระแสการขุดคุ้ยพร้อมสันนิษฐานของชาวเน็ตว่า “อดีตรองนายกรัฐมนตรี” คนดังกล่าวนั้นเป็นใคร จนมีการพาดพิงไปถึง “นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.มหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โดยเจ้าตัวได้ออกมาปฎิเสธว่าไม่ใช่ตนเอง เพราะอดีตรองนายกรัฐมนตรีมีตั้งหลายคน พร้อมทั้งขอให้มีการขับทนายตั้มออกไปจากพรรค


-ทำความรู้จัก ‘ยงยุทธ วิชัยดิษฐ’ อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.มหาดไทย
-‘ยงยุทธ’ โต้ลั่นไม่ใช่รองนายกฯเล่นชู้เมียชาวบ้าน จี้เพื่อไทยขับ ‘ทนายตั้ม’ พ้นพรรค!

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เผยถึงการคาดเดาของคนในโลกออนไลน์ ว่าไม่ส่งผลต่อพรรคเพื่อไทย หากไม่เกี่ยวข้องพรรคก็ตั้งคณะกรรมการสอบไม่ได้ ย้ำขณะนี้ “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวดังกล่าวยังคงดุเดือดอย่างต่อเนื่อง หลัง “ทนายตั้ม” โต้กลับถึง “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” ลั่นถ้าไม่ใช่ตัวเองแล้วจะร้อนตัวทำไม อีกทั้งการที่มาขับออกจากพรรคนั้น ทำไปทำไมเนื่องจากตนเองก็เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่มีความนิยมชมชอบในพรรคเหมือนประชาชนทั่วไปมาหลายปีแล้ว
-‘ทนายตั้ม’ โต้เดือดถึง ‘ยงยุทธ’ ลั่นถ้าไม่ใช่ ‘อดีตรองนายกฯฉาว’ จะร้อนตัวทำไม?

วันที่ 10 ม.ค. 2566
โลกออนไลน์ได้ตกตะลึงกันอีกครั้ง เมื่อมีการแฉภาพหลุดไม่มีแผ่ว โดยเป็นภาพของ “อดีตรองนายกฯ” กับเมียชาวบ้าน ที่มีการถ่ายภาพคู่กันในอิริยาบทคู่รักกันในสถานที่แห่งหนึ่งขณะกำลังจะรับประทานอาหารร่วมกัน คาดว่าเป็นในโรงแรม มีท่าทีสนิทสนมและใกล้ชิดกันแบบสนิทชิดเชื้อโดยไม่แคร์สายตาผู้อื่น และยังมีภาพขณะที่ยืนโอบกอดกัน ท่ามกลางผู้ใหญ่อีกด้วย
-เปิดวาร์ป ภาพคู่ ‘อดีตรองนายกฯ-ชู้รัก’ ตะลึงสาวสวย-เผ็ดมากจนต้องทำผิดศีลธรรม

อย่างไรก็ตาม “อดีตรองนายกรัฐมนตรี” ที่เล่นชู้กับเมียชาวบ้านนั้นเป็นครั้ง และเรื่องราวการผิดศีลธรรมครั้งจะเป็นอย่างไร คงจะต้องจับตาติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป!..