เมื่อวันที่ 11 ม.ค. เวลา 16.00 น. ศ.ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) แถลงข่าวกรณีถูกหมิ่นประมาทในสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องข้อเท็จจริงในการการทำวิจัย ที่ ห้องประชุมราชพฤกษ์ มจพ. ว่า ตนจบการศึกษาจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมวัสดุศาสตร์ และเป็นนักวิจัยภายหลังจบปริญญาเอก ที่ Purdue University สหรัฐอเมริกา ทั้งได้ทำงานวิจัยทางด้านงานวัสดุ และ composite อย่างต่อเนื่องภายหลังจบการศึกษา มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์และเผยแพร่ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติตลอดทั้งยังเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งผลงานวิจัยที่มีจำนวนงานวิจัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี เกิดจากการทำงานวิจัยร่วมกันเป็นทีมกับคณะนักวิจัยจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นนักวิจัยแบบเต็มรูปแบบ (full time researchers) ใน มจพ. รวมถึงนักวิจัยต่างชาติ และยังมีโครงการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่เคยร่วมงานกันในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการขยายเครือข่ายความร่วมมือในการวิจัย อีกทั้งคณะที่ตนสังกัดอยู่ คือ บัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย-เยอรมัน มจพ. จัดการเรียนการสอนเฉพาะระดับบัณฑิตศึกษาภาคภาษาอังกฤษเท่านั้น เน้นการทำวิจัยกับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งรูปแบบการทำวิจัยเป็นทีมทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการสร้างเครือข่ายการทำวิจัยร่วมกับต่างประเทศดังกล่าวเป็นรูปแบบปกติที่มีอยู่หลายประเทศในปัจจุบัน

อธิการบดี มจพ. กล่าวต่อไปว่า ผลงานวิจัยของตนเป็นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยทางด้านวัสดุศาสตร์ ซึ่งถือเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการทำงานวิจัยของตน อีกทั้งตลอดระยะเวลาที่ศึกษาที่เยอรมนี มากว่า 17 ปี และสหรัฐอเมริกา มากว่า 2 ปี ทำให้เกิดเครือข่ายการทำวิจัยกับนักวิจัยต่างชาติ รวมทั้งการทำงานวิจัยอย่างต่อเนื่องภายหลังจบการศึกษาได้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกจากต่างประเทศมากกว่า 20 คน และมีนักวิจัยภายหลังปริญญาเอก (Post doctoral) มากกว่า 10 คน รวมถึงการมีนักวิจัยต่างชาติที่ทำงานร่วมกันในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง และได้รับทุนวิจัยจากภายในและภายนอกประเทศอย่างต่อเนื่องทุกปีที่มาปฏิบัติงานที่ มจพ. จนถึงปัจจุบันที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดี จึงทำให้เกิดการสร้างเครือข่ายงานวิจัยมาตลอด และไม่ได้รับค่าตอบแทนหรือเงินสนับสนุนใด ๆ ในการตีพิมพ์ผลงานวิชาการจากบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย-เยอรมัน และมจพ. แต่อย่างใด

“งานวิจัยของผมสามารถตรวจสอบได้ ไม่มีอะไรผิด และผมไม่ซื้องานวิจัยแน่นอน ผมไม่ได้เอางานวิจัยไปเบิกเงินสักบาทของ มจพ. และไม่ใช่เรื่องแปลกที่ศาสตราจารย์ที่ได้รับการยอมรับ จะมีงานวิจัยจำนวนมาก งานวิจัยของผมก็ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ ซึ่งการซื้องานวิจัยไม่สามารถเข้าไปได้รับการตีพิมพ์ได้ เพราะต้องผ่านการตรวจสอบหลายขั้นตอน การที่ผมมีงานวิจัยเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นการทำงานเป็นเครือข่ายทั้งในมาเลเซีย อินเดีย เยอรมนี ส่วนที่ถูกโยงไปเรื่องซื้อขายงานวิจัย อาจจะเป็นเพราะผมมีงานวิจัยมาก ปีที่ผ่านมามี 140 งานวิจัย ส่วนปีก่อนๆ จะอยู่ที่ 70-80 งานวิจัย ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ของเมืองไทย แต่ต่างประเทศไม่ถือว่าแปลกใหม่ เพราะมีกลุ่มวิจัยกันอยู่ มีเครือข่ายการทำวิจัย ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกับคนที่นำข้อมูลของผมออกมาเผยแพร่ แต่คงจะต้องมอบฝ่ายกฎหมายของ มจพ. ตรวจสอบ เพราะทำให้กระทบกับตัวผมด้วย ทำให้สังคมมุ่งเป้ามาที่ผม ทั้งยังกระทบขวัญกำลังใจนักวิจัยด้วย” ศ.ดร.สุชาติ กล่าว