สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ว่า จากกรณีมีรายงานการพบเอกสารลับจำนวนหนึ่ง เป็นบันทึกข่าวกรอง และรายงานฉบับย่อเกี่ยวกับสถานการณ์ในหลายประเทศ รวมถึงอิหร่าน ยูเครน และสหราชอาณาจักร ถูกจัดเก็บอยู่ภายในตู้เก็บเอกสารที่มีการล็อกกุญแจอย่างแน่นหนา ภายใน “สถานที่อย่างน้อยสองแห่ง” หนึ่งในนั้นคือมูลนิธิ ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เคยทำงาน หลังหมดวาระรองผู้นำสหรัฐ ในยุครัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา
President Biden told reporters he was 'surprised' classified documents were found at an old office of his, but maintained his attorneys 'did what they should have done' in contacting the National Archives once they were discovered pic.twitter.com/RRDWOoYm5K
— NowThis (@nowthisnews) January 12, 2023
ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ยอมรับรายงานดังกล่าว แต่ย้ำว่า เอกสารที่พบ “มีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 10 ชุดเท่านั้น” และผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน “มีความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง” ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และยืนยันการให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับหน่วยงานทุกแห่ง ที่จะดำเนินการสอบสวน
แน่นอนว่า พรรครีพับลิกันจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แกนนำคนสำคัญ กล่าวเชิงเหน็บแนม ว่า “เมื่อไหร่” สำนักงานสอบสวนกลาง ( เอฟบีไอ ) จะเข้าตรวจค้นทำเนียบขาว เหมือนที่จู่โจมตรวจค้นคฤหาสน์ที่รัฐฟลอริดาของเขา เมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว เพื่อยึดเอกสารลักษณะเดียวกัน
House leaders are seeking to investigate President Joe Biden after a classified document discovery. https://t.co/UtfhZz06eM pic.twitter.com/ZIkXxMb6LF
— USA TODAY (@USATODAY) January 10, 2023
ในอีกด้านหนึ่ง คณะกรรมาธิการด้านการกำกับดูแลของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่ตอนนี้พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ประกาศเดินหน้าการสอบสวนผู้นำสหรัฐและครอบครัว โดยได้มีการยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการ ไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อขอข้อมูลทางการเงิน และฝ่ายบริหารของทวิตเตอร์ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดการ “รายงานเปิดโปง” ของนิวยอร์ก โพสต์ เมื่อปี 2563 เกี่ยวกับนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของไบเดน ซึ่งตอนนั้นมีเสียงวิจารณ์สะพัดว่า “ถูกปิดกั้นด้วยเหตุผลทางการเมือง”.
เครดิตภาพ : REUTERS