ความเคลื่อนไหวฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 รอบชิงชนะเลิศ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย พบ “ดาวทอง” เวียดนาม นัดแรกเตะที่ มีดิงห์ สเตเดี้ยม ประเทศเวียดนาม วันที่ 13 ม.ค.66 ก่อนที่นัด 2 มาชี้ชะตาที่ ธรรมศาสตร์ รังสิต วันจันทร์ที่ 16 ม.ค.66 ถ่ายทอดสดทางช่อง 9 MCOT30 และ T Sports7

ในเรื่องการจำหน่ายตั๋วชมการแข่งขันนัดที่ 2 วันจันทร์นี้นั้น โซน N กับ S (หลังโกล ฝั่งทิศเหนือ-ใต้) ราคา 250 บาท/โซน E (ทิศตะวันออก ฝั่งตรงข้ามประธาน) ราคา 450 บาท/โซน W (ทิศตะวันตก ฝั่งประธาน) ราคา 600 บาท/และทีมเยือน ราคา 750 บาท ปรากฏว่าขายเร็วหายวับไปกับตาเลยทีเดียว

ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ เปิดให้ซื้อบัตรออนไลน์รอบแรกส่วนหนึ่ง “เออร์ลีเบิร์ด” สำหรับช้างศึกเมมเบอร์ เมื่อ 11 ม.ค. หมดอย่างรวดเร็ว จากนั้นเปิดจำหน่ายรอบปกติ วันที่ 12 ม.ค. เวลา 10.00 น. ไม่ถึง 10 นาที ก็หมดเกลี้ยงทุกโซน แม้แต่โซนทีมเยือนก็ไม่เหลือ ทำให้บรรยากาศนัดชิงดำเจ้าอาเซียนเดือดแน่นอน แฟนบอลจะทะลุ 2 หมื่นคน ดูเกมแบทเทิลออฟอาเซียน

ส่วนกรณีที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้สำรวจราชมังคลากีฬาสถาน กรณีที่จะย้ายวิกมาเตะที่นี่ เพราะจุคนได้เยอะกว่า แต่ต้องให้สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) พิจารณา และต่อมา เอเอฟเอฟ ยืนยันเตะที่ ธรรมศาสตร์ ตามเดิม

“เลขาโจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแหประเทศไทย ให้เหตุผลว่า ฝ่ายผู้ควบคุมการแข่งขันและฝ่ายที่ดูแลการถ่ายทอดสดมองแล้วว่าสภาพสนามของ ราชมังคลากีฬาสถาน ไม่พร้อมที่จะใช้ทำการแข่งขันได้ ทั้งเรื่องความปลอดภัยหรือภาพลักษณ์ที่จะออกมาในการถ่ายทอดสด

“ตามระเบียบแล้วสนามจะต้องไม่มีอีเวนต์ 15-20 วันก่อนการแข่งขัน เช่นถ้าก่อนหน้านี้ไม่มีอีเวนต์เลย เราสามารถแจ้งย้ายสนามได้ แต่ครั้งนี้เนื่องจากท่านผู้ว่าฯ ได้ไปชมเกมที่ธรรมศาสตร์แล้วเห็นว่านัดชิงคนน่าจะอยากดูเยอะ จึงอยากให้ลองย้ายมา ซึ่งทางเอเอฟเอฟเข้าใจและยอมมาดูให้ แต่สุดท้ายมันไม่พร้อมจริงๆ”

นายพาทิศ กล่าวอีกว่า ความพร้อมไม่ใช่ว่าจะไปพร้อมวันแข่งได้เพราะแต่ละทีมก็ต้องเริ่มใช้สนามกันตั้งแต่วันที่ 14-15 ม.ค. ในการฝึกซ้อมอยู่แล้ว ดังนั้นทาง เอเอฟเอฟ เลือกที่จะไม่เสี่ยงเพราะทุกอย่างลงตัวดีอยู่.