สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติจีน หรือ ไชน่าซีดีซี เผยแพร่แถลงการณ์ของ นพ.อู๋ จุนโหยว หัวหน้าฝ่ายระบาดวิทยา ว่า การเคลื่อนย้ายครั้งใหญ่ของประชาชนจำนวนมหาศาลตลอดช่วงเทศกาลตรุษจีน แน่นอนว่า อาจส่งผลให้การพบผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นในบางพื้นที่


ทั้งนี้ โดยส่วนตัว นพ.อู๋ ไม่เชื่อว่า การแพร่ระบาดใหญ่ระลอกต่อไปจะเกิดขึ้นภายในอนาคตอันใกล้ หรือภายในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า เนื่องจาก “80% ของประชาชนในจีน ติดเชื้อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” ทว่าไม่ได้มีการขยายความ ว่าอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลใด


แม้ก่อนหน้านั้นไม่นาน หน่วยงานสาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์อีกหลายคนของจีน ยืนยันไปในทางเดียวกันว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ “ผ่านพ้นจุดวิกฤติไปแล้ว” ทั้งในแง่ของการพบผู้ติดเชื้อ การเข้ารับการรักษาตัวโรงพยาบาล และการเสียชีวิต


อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) รายงานว่า สถิติ “อย่างเป็นทางการ” ของการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ป่วยโควิด-19 ในจีน ในรอบสัปดาห์ล่าสุด จนถึงวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา อยู่ที่อย่างน้อย 63,307 คน เพิ่มขึ้น 70% จากสัปดาห์ก่อนหน้า และเป็นสถิติรายสัปดาห์สูงสุด นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ในจีน เมื่อปี 2563


ขณะที่ คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีน ( เอ็นเอชซี ) ประกาศครั้งล่าสุด เมื่อช่วงกลางเดือนนี้ ว่าระหว่างวันที่ 8 ธ.ค. 2565 ซึ่งเป็นระยะแรกของการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 จนถึงวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา จีนมี “ผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาล” จากโรคโควิด-19 จำนวน 59,938 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ จากจำนวนดังกล่าว 5,503 ราย เสียชีวิตเพราะระบบหายใจล้มเหลว ซึ่งเป็นผลจากโรคโควิด-19 ส่วนผู้เสียชีวิตที่เหลือเป็นผลจากโรคโควิด-19 ร่วมด้วยโรคประจำตัว.

เครดิตภาพ : REUTERS