ศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก วันพุธที่ 25 ม.ค. เวลา 03.00 น. “เจ้าป่า” น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ได้เล่นในบ้านก่อนที่ซิตี กราวด์ เจอกับ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยฟอร์มล่าสุดของ ฟอเรสต์ เพิ่งเสมอ บอร์นมัธ 1-1 ส่วน ยูไนเต็ด บุกพ่าย อาร์เซนอล 3-2

สตีฟ คูเปอร์ กุนซือทีมฟอเรสต์ จะต้องใช้ เวย์น เฮนเนสซี เฝ้าเสาต่อไป เนื่องจาก ดีน เฮนเดอร์สัน ยังไม่หายบาดเจ็บ และติดสัญญาเจอกับต้นสังกัดแม่ไม่ได้อยู่แล้ว ขณะที่ ไตโว อโวนิยี, ชีคกู คูยาเต, โอมาร์ ริชาร์ดส, มุสซา เนียคฮาเต และ จูเลียน เบียงโคเน ต่างบาดเจ็บทั้งหมด

ไรอัน เยตส์ ลงเล่นแค่ครึ่งแรกเกมที่แล้วเนื่องจากป่วย เป็นโอกาสของ ดานิโล ที่ย้ายมาจากพัลไมรัส ประเดิมสนามและคาดว่าจะได้เป็นตัวจริงเกมนี้ แนวรุกไม่มี คริส วูด กองหน้าใหม่ เพราะเล่นให้ นิวคาสเซิล มาก่อนแล้ว

เอริค เทน ฮาก กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้ คาเซมิโร พ้นโทษแบนกลับมา ทำให้ สกอตต์ แมคโทมิเนย์ กลับไปนั่งสำรอง ส่วนตัวเจ็บมีทั้ง อักเซล ตวนเซเบ, ดอนนี ฟาน เดอ เบค, อ็องโตนี มาร์กซิยาล และ ดิโอโก ดาโลต์

คาดว่า เทน ฮาก จะจัดชุดที่แข็งแกร่งแล้วค่อยหมุนเวียนนักเตะในเกมหน้ากับ เรดดิง ในถ้วยเอฟเอ คัพ ดาบิด เด เคอา เฝ้าเสา เกมรับมี อารอน วาน บิสซากา, ราฟาเอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย ส่วนแดนกลาง คาเซมิโร, คริสเตียน อีริคเซน อยู่หลัง อันโตนี, บรูโน แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เวาต์ เวกฮอร์สต์ เป็นกองหน้าตัวเป้า

สถิติการเจอกัน 79 ครั้ง ยูไนเต็ด เหนือกว่าด้วยการชนะ 38 เสมอ 17 แพ้ 24 และแม้ว่าหากนับเฉพาะที่บ้านฟอเรสต์ เจ้าถิ่นดีกว่า ด้วยการชนะ 17 เสมอ 8 แพ้ 14 แต่การเจอกันช่วงหลังทุกรายการ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะมา 6 นัดติดต่อกันแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ต้องย้อนไปเดือน ธ.ค. ปี 1994 ที่แพ้คาบ้าน 1-2