เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ ศูนย์คดียาเสพติด ศูนย์ราชการ อาคารเอ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. ภายหลัง นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส พร้อมด้วย นายศุภชัย ทิพย์สิทธิ์ ทนายความส่วนตัว เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ นายพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด ใน 2 คดี ได้แก่ คดี 288/2565 ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และคดี 6/2566 ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันและร่วมกันฟอกเงิน

นายพันธ์ธวัช เปิดเผยว่า หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหานั้น ตนยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา แต่เมื่ออยู่ภายใต้กฎหมายไทย เมื่อเข้าสู่กระบวนการแล้วและกระทบต่อความเชื่อมั่น จึงขอยุติบทบาทการจำหน่ายลอตเตอรี่ไว้เพียงเท่านี้ก่อน จนกว่าจะพิสูจน์ข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว และหลังจากเสร็จสิ้นจึงจะมาว่ากันอีกที อย่างไรก็ตาม ตนยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนลูกค้าท่านใดที่ซื้อลอตเตอรี่งวดนี้ไปแล้ว หากถูกรางวัลเงินจะยังเป็นของลูกค้า จะได้รับเงินรางวัลตามปกติ

เมื่อถามว่าหนักใจในข้อหาฟอกเงินหรือไม่ นายพันธ์ธวัช ระบุว่า ไม่หนักใจ เพราะตนไม่ได้ทำ ส่วนหลักฐานที่จะนำมายืนยันนั้นเป็นพยานหลักฐานและต้องพิสูจน์กันในขั้นตอนต่อไป มั่นใจในพยานหลักฐานว่าสามารถสู้กับคดีได้ 100% และสามารถชี้แจงได้ทุกเส้นทาง

เมื่อต่อข้อถามว่าในเมื่อมั่นใจในพยานหลักฐาน เหตุใดถึงโดนดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหา นายพันธ์ธวัช ระบุว่า ทางดีเอสไอทำตามหน้าที่ ตรงไหนที่สงสัยก็จะขึ้นสู่กระบวนการพิสูจน์ในขั้นตอนต่อไป

สำหรับหลักฐานส่วนไหนที่ทำให้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินนั้น นายพันธ์ธวัช ระบุว่า น่าจะเป็นเช็คที่ตนรับมาจากนายอรรถกานต์ ซึ่งมีคนเข้าใจผิดในเรื่องนี้ทำให้ตนเสียหายมาก ซึ่งยืนยันว่า ตนเคยเจอในอรรถกานต์เพียงครั้งเดียว แต่นายสันธนะไปเผยแพร่ว่า นาย อ. คือ เอ็ดดี้-พันณรงค์ ซึ่งตนรู้จักกับนายเอ็ดดี้จริง เพราะเคยเปิดบริษัทร่วมกันแต่ก็ล้มเลิกกิจการไปแล้ว และเราก็รู้จักกันในฐานะเพื่อนกินและเพื่อนเที่ยว ส่วนกรณีเส้นทางเงิน 39 รายการ ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป ส่วนนี้ยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก..