สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ว่า นายโอเล็กซี เรซนิคอฟ รมว.กลาโหมยูเครน เยือนกรุงปารีส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อพบหารือกับนายเซบาสเตียน ลาคอร์นู รมว.กลาโหมฝรั่งเศส โดยเรซนิคอฟกล่าวว่า “ไม่ได้หารือกันอย่างจริงจัง” เกี่ยวกับการขอความสนับสนุนด้านเครื่องบินขับไล่จากฝรั่งเศส แต่ยืนยันว่า รัฐบาลปารีส “แสดงความสนใจ” ในการมอบความสนับสนุนด้าน “แพลตฟอร์มด้านการทหารทางอากาศ” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการโจมตีจากพื้นสู่อากาศ


ด้านลาคอร์นูกล่าวตรงไปตรงมากว่าว่า การส่งมอบเครื่องบินขับไล่ให้แก่ยูเครนในภาวะสงครามกับรัสเซีย “ไม่ใช่เรื่องต้องห้าม” และยืนยันการเตรียมส่งปืนใหญ่อัตตาจรซีซาร์ให้อีกฝ่ายเพิ่มอีก 12 ชุด สอดคล้องกับคำกล่าวของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ว่า ฝรั่งเศส “ไม่เคยปิดกั้น” การส่งมอบเครื่องบินรบให้แก่ยูเครน ทว่า “ต้องมีเงื่อนไข” รวมถึงการที่ความสนับสนุนเรื่องนี้จะไม่กลายเป็นการ “ยกระดับความตึงเครียด” การไม่ใช้งานเครื่องบินรบของฝรั่งเศส “ในเขตน่านฟ้าและเหนือแผ่นดินของรัสเซีย” และเรื่องนี้ต้องไม่สั่นคลอนศักยภาพของกองทัพฝรั่งเศส


ท่าทีดังกล่าวของฝรั่งเศสและยูเครนเกิดขึ้น หลังสหราชอาณาจักรเป็นประเทศตะวันตกล่าสุด ที่ประกาศชัดเจนว่า จะไม่มอบความช่วยเหลือเรื่องนี้ให้แก่รัฐบาลเคียฟ โดยนายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก กล่าวว่า “ยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน” และเอฟ-35 เป็นเครื่องบินขับไล่ที่ซับซ้อน “ต้องใช้เวลานานหลายเดือนเพื่อเรียนรู้” กว่าจะนำเครื่องบินขึ้นสู่อากาศได้


ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ยืนกรานปฏิเสธมอบความช่วยเหลือเป็นเครื่องบินเอฟ-16 ส่วนนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ กล่าวว่า เยอรมนีสนับสนุนเฉพาะรถถังเท่านั้น และเตือนว่า “สงครามไม่ใช่สนามประมูลอาวุธ”.

เครดิตภาพ : REUTERS