จากกรณีโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือสามัญและเนตรนารี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้น ปีที่ 2 จำนวน 205 คน บริเวณสนามฟุตบอลภายในโรงเรียน และได้ทำการจัดกิจกรรมเล่นรอบกองไฟ ซึ่งขณะที่กลุ่มลูกเสือที่แต่งตัวเป็นซูลู ประมาณ 7 คน เต้นถือคบเพลิงจะมาจุดบริเวณกองไม้ที่เตรียมไว้ ได้เกิดไฟลุกท่วมนักเรียนชั้น ม.2 ได้รับบาดเจ็บ 5 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 3 ก.พ. ต่อมาทางโรงเรียน จึงได้สั่งยกเลิกกิจกรรมทั้งหมด นั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 ก.พ. ร.ต.อ.วรพงษ์ ศิริพงศ์วรนาถ รองสว.(สอบสวน) สภ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งและลงบันทึกประจำวัน จากทางของผู้ปกครองเด็กนักเรียน 3 คน ที่ร่วมกิจกรรมรอบกองไฟ ก่อนถูกไฟลุกไหม้เด็กนักเรียนชายที่ร่วมแสดง ได้รับบาดเจ็บ 5 คน อาการสาหัส 2 คน ซึ่งหากดูจากเหตุการณ์แล้ว ลักษณะของการเกิดเหตุน่าจะเป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ทั้งนี้ต้องทำการสอบสวนจากผู้เห็นเหตุการณ์รวมทั้งเด็กนักเรียนด้วย และจะได้มีการประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานให้มาทำการเก็บหลักฐานในวันที่ 7 ก.พ.

แม่ของ ด.ช.สุวัฒน์ หรือน้องคิว ซึ่งได้รับบาดเจ็บแผลถูกไฟไหม้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ กล่าวว่า ตอนที่น้องเห็นหน้าแม่ครั้งแรก น้องบอกกับแม่ว่าไม่ใช่ความผิดของคิว ตอนนี้ทางแม่ที่ไปเฝ้าอาการของลูกไม่สามารถเข้าไปอยู่ได้ จะได้เข้าไปดูอาการเป็นครั้งๆ ตามที่หมอจะพาไปดู แต่น้องคิวก็รับรู้สติดี เมื่อแม่บอกว่าแม่มาเยี่ยมพยักหน้ารับรู้อยู่ในห้องปลอดเชื้อ และแม่ได้รับแจ้งจากทางหมอว่า จะต้องอยู่รักษาตัวประมาณ 3 เดือน จึงได้หาเช่าบ้านพักรายเดือนไว้ เพราะว่าจะต้องไปอยู่อีกนาน

ส่วนอาการของลูกตนขณะนี้อาการยังไม่ปลอดภัย 100% ยังหายใจเองไม่ได้ เพราะว่าทางเดินหายใจของน้องมันพองอยู่และต้องสอดท่อหายใจเข้าไป ถูกไฟไหม้ทั้งตัว ไม่มีตรงไหนที่จะไม่เป็นแผล มีคนเจ็บทั้งหมด 5 คน แต่ว่าลูกชายของตนเจ็บมากกว่าเพื่อนๆ

ด้านน้าของน้องคิว กล่าวว่า รู้สึกสงสารหลานมากนึกถึงว่าขนาดเราเป็นผู้ใหญ่ถูกน้ำร้อนลวกก็ยังรู้สึกเจ็บปวดมาก นี่น้องเป็นเด็ก ถูกไปเกือบทั้งตัว คิดแล้วก็รู้สึกอนาถใจ ตอนนี้ก็ยังรู้สึกกังวลเป็นห่วงเพราะอาการของหลานก็ยังไม่ดีขึ้น หมอก็บอกว่าต้องรอดูอาการอีก 3 วัน ถึงจะพ้นขีดอันตราย แต่ตอนนี้ก็มีหลอดลมบวมมาแทรกอีก แต่ก็เชื่อว่าหมอ รพ.ศรีนครินทร์ ดี แม่เขาก็บอกว่าหมอใจดี หมอบอกว่าจะดูแลอย่างเต็มที่ ก็รู้สึกสบายใจ ตอนนี้ก็ฝากความหวังไว้กับหมอและได้ขอสิ่งศักดิ์จากวัดในหมู่บ้านได้ปกปักษ์รักษาอาการของน้อง

“รู้อยู่ว่าเป็นอุบัติเหตุที่ทุกคนไม่อยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดแล้วก็ไม่อยากให้ปฏิเสธความรับผิดชอบ เกิดแล้วอย่าพยายามว่าเด็ก มีครูบางคนยังพูดว่าเด็กเอาแอลกอฮอล์ทาตัว อย่าปัดความรับผิดชอบแบบนั้น น่าจะพูดว่าจะดูแลถึงที่สุด ไม่ใช่ว่าคลิปหลุดไปได้อย่างไร ห่วงแต่ชื่อเสียง แต่ควรจะห่วงความรู้สึกของพ่อแม่บ้าง” น้าของน้องคิว กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของ นางวัชรี แม่ของ ด.ช.อนุพงษ์ หรือน้องโด้ ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น กำลังเลี้ยงลูกชายคนเล็กอายุ 4 เดือนอยู่ จึงไม่สามารถไปเฝ้าลูกชายได้ โดยเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตอนแรกที่ไปเห็นลูกเป็นลมไปเลย ดูไม่ได้ ตอนนี้ก็เริ่มทำใจได้บ้างแล้ว ตอนนี้ให้พ่อเขาไปเฝ้าอาการอยู่ เพราะอยู่ห้องปลอดเชื้อ และตัวเองลูกยังเล็กทำให้เดินทางไปไม่ได้ ตอนนี้ก็ได้มีหน่วยงานของทาง อบต. โทรมาสอบถาม ส่วนคณะครูหรือทางโรงเรียน หรือหน่วยงานอื่น ยังไม่ได้เข้ามา

ขณะที่ นายจักรพันธ์ ทองอ่ำ นายอำเภอโนนสัง และนางรัตนมณี ฮวดเส็ง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองบัวลำภู ก็ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังครอบครัวผู้บาดเจ็บ 3 ราย โดย 2 รายออกจากโรงพยาบาลแล้วและยังอยู่ที่โรงพยาบาลโนนสัง 1 ซึ่งทั้ง 3 รายมีพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นข้าราชการ นอกจากนั้น ยังได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวนักเรียนอีก 2 คน ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ที่หมู่บ้านหนองตา และที่รักษาตัวอยู่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ที่หมู่บ้านหนองแสบง ต.โคกใหญ่ อ.โนนสัง ซึ่งจะได้ดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบของทางหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดต่อไป.