จากกรณีประเด็นร้อนของวงการนางงาม เมื่อเพจเฟซบุ๊ก “มิสแกรนด์ชลบุรี” ได้ออกมาร่อนหนังสือการปลด “นางสาวกฤษฎาภรณ์ นาใคร” มิสแกรนด์ชลบุรีประจำปี 2023 ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่และขาดคุณสมบัติ จึงเปลี่ยนให้ “นางสาวรัตน์ระพี ธรรมใจกุล” รองอันดับ 2 เข้ารับตำแหน่งแทน

ล่าสุดอดีตมิสแกรนด์ชลบุรีประจำปี 2023 “กฤษฎาภรณ์ นาใคร” หรือที่รู้จักกัน นาใคร ได้ออกมาโพสต์ร่ายยาวชี้แจงหลังถูกปลดฟ้าผ่าผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุข้อความว่า“#น้องขอออกมาพูดบ้าง ในสิ่งที่น้องอยากบอกทุกคน กับประเด็นต่างๆ ที่ทาง PD ออกมาแถลงการณ์ปลดหนู เรื่องมีดังนี้ค่ะ”
1.วันที่ 29 พฤศจิกายน2565
น้องบินถึงดอนเมือง 21.20 น. นั่งรอแท็กซี่กลับบ้านที่นนทบุรี สถานที่ที่ต้องไปคืนชุดอยู่ที่ธรรมศาสตร์รังสิต ซึ่งมันไกลมากและมันดึกแล้ว น้องจึงนำชุดกลับบ้านมาก่อนแล้วค่อยทำการนำส่งคืนในวันที่ 2 ธันวาคม และน้องยืนยันว่าพีดีไม่ได้สั่งให้น้องส่งชุดคืนในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565
2.วันที่ 1 ธันวาคม 2565
น้องไม่ได้ไปตามนัดคลินิกจริง ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่น้องขายของช่วยแม่ทั้งวัน จนน้องเองลืมนัด น้องน้อมรับผิดข้อนี้ค่ะ และน้องเองได้ทำการทักไปขอโทษทางคลินิคด้วยตัวของน้องเองแล้วค่ะ
3.วันที่ 21 ธันวาคม2565
ไปพบสปอนเซอร์ น้องถามพีดีแล้วว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง และตัวน้องยังบอกไปอีกนะคะว่าน้องไม่มีชุดสวยใส่ พีดีบอกว่าเอาเท่าที่มี (หนูมีหลักฐาน) แล้วน้องก็เตรียมชุดไปเท่าที่มี ซึ่งได้รับบรีฟจากพีดีเรื่องชุด 1-2 ชั่วโมงก่อนเวลานัด น้องเตรียมไป 3 ชุด สปอนบอกเอาง่ายๆ เพราะถ่ายเจาะแค่เพชร และสปอนเลือกชุดสูทสีขาวเอง ในเพจสปอนก็เป็นหลักฐานได้ว่าสปอนเค้าถ่ายเจาะแค่หน้ากับเครื่องเพชรเท่านั้น ทั้งนี้ทางสปอนก็ยังได้สอบถามว่าทำไมพีดีไม่มาด้วย
4.วันที่ 26 ธันวาคม2565
พบสปอนเซอร์คลินิกความงาม เรื่องที่บอกว่าน้องไม่แต่งหน้าไป ที่จริงน้องแต่งไปแต่แต่งแบบเบาๆ เพราะตอนนั้นน้องคิดว่าเราไปทำหน้าจะได้ไปแบบคลีนๆ เลยไม่ต้องลำบากคุณหมอ แต่พอไปถึงพี่ๆ เค้าแจ้งว่าจะมีการถ่ายรีวิว น้องก็เลยบอกว่างั้นมารอบหน้าก็ได้ค่ะ จะได้เตรียมตัวแต่งหน้าใส่ชุดแบบจัดเต็มมา อันนี้น้องผิดที่คิดน้อยไปหน่อยค่ะ
5.วันที่ 27 ธันวาคม 2565
งานไฟนอลชุมพร-ตรัง ประเด็นที่น้องไม่ได้ไปนั่งกับพีดี เพราะตอนแรกน้องเดินเข้างานมากับพี่เลี้ยง น้องมองหาพีดีไม่เห็นก็เลยไปหาที่นั่ง พอดีเห็นเพื่อนนางงามท่านหนึ่ง บอกนั่งตรงนี้ได้ เพราะเป็นที่นั่งของทีมเราเอง หนูก็เลยนั่ง แล้วเราก็คุยกันสนุกสนานแลกเปลี่ยนความรู้กันและตรงนั้นมีนางงามหลายท่านน้องก็คุยกันว่าเข้ากอง เรามาอยู่กลุ่มเดียวกันนะ จากนั้นพี่เลี้ยงน้องก็ขอตัวไปชาร์จแบตมือถือที่ห้องแต่งหน้าก่อน น้องเลยนั่งรอตรงนี้คุยกับเพื่อนๆต่อ สักพักพี่ Producer ก็มาตามให้ไปนั่งกับพีดี น้องเลยบอกไปว่าน้องขอนั่งตรงนี้คุยกับเพื่อนๆ และรอพี่เลี้ยงก่อนเดี๋ยวน้องตามไป พอพี่เลี้ยงกลับมาจึงได้ขอตัวไปนั่งแถวๆ พีดีนั่งจนจบงาน
6.รีวิวสปอนเซอร์
น้องทำส่งให้ตลอดทุกสปอน คลิปไหนทำไม่ดี น้องก็พยายามทำใหม่ให้มันดีกว่าเดิมเท่าที่น้องจะทำเองได้ ซึ่งน้องยอมรับว่าน้องทำไม่เป็นจริงๆ แต่น้องก็ให้พี่เลี้ยงช่วยสอนช่วยตัดคลิป จนมีรีวิวต่างๆ ที่น้องแชร์ในเพจและช่องทางโซเชียลของน้อง ซึ่งน้องก็พยายามฝึกเรื่อยๆ ค่ะ และทางกองก็ไม่ได้มาซัพพอร์ต ช่วยคิดคอนเทนต์ ช่วยตัดคลิปเลย มีแต่หนูและทีมพี่เลี้ยงทำกันเองมาตลอด

7.ตั้งแต่จบการประกวดมา
น้องยังไม่ได้รับเงินรางวัลเลย ซึ่งก็ไม่ได้ติดใจคิดว่าเงินส่วนนี้ทางผู้ใหญ่คงจะนำมาพัฒนาตัวเรา แต่เห็นพีดีบอกจะแบ่งจ่ายส่วนหนึ่ง และเอาเงินไว้มาซัพพอร์ตหนู แต่หนูไม่เห็นการซัพพอร์ตจากกองเลย ไปไหนมาไหน หนู ซัพพอร์ตตัวเองหมด มีแต่สั่งให้ทำสั่งให้เปลี่ยน สั่งให้ปรับ ซึ่ง หนูก็ทำตาม โดยปกติหลังจากมงควรมีการพาทีมไปขอบคุณสปอนเซอร์แต่นี้ไม่มีเลยค่ะ
8.ทางทีมน้องและกองมีการพูดคุยกันเรื่องการสละตำแหน่ง
ในวันที่ 8 มกราคม 2566 (ถ้าน้องสู้ต่อแล้วน้องไม่มีกระแสหรือดีขึ้นน้องจะโดนเปลี่ยนจากสละตำแหน่งเป็นปลดตำแหน่ง) แต่น้องและทีมก็ตัดสินใจเลือกที่จะยกมือไหว้ขอโอกาสสู้ต่อจนสุดความสามารถ จะขอแก้ตัวในสิ่งที่เคยทำไว้ยังไม่ดีพอ จะพยายามหาแสงให้ตัวเองตามที่กองต้องการ ซึ่งน้องมั่นใจว่าน้องปรับปรุงมาโดยตลอดระยะเวลาที่พีดีไห้พิสูจน์ตัวเอง ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ มีแสงมากขึ้น ซึ่งวัดจากเพจนางงามต่างๆ เริ่มลงข่าวน้องมากขึ้น และเริ่มเป็นที่รู้จักในนามน้องนาใคร
9.ตอนไปถ่ายพอร์ตเทรตที่ขอนแก่น
มีทางเพจนางงามทักมาให้ไลฟ์ในเพจพูดคุยพบปะเเฟนคลับได้ พี่เลี้ยงและน้องจึงได้ทำการไลฟ์สดเป็นการเคลื่อนไหวเป็นน้ำจิ้มให้แฟนคลับเห็น ว่าเราไม่ได้หายไปไหนนะเราถ่ายพรอทเทรตชุดว่ายน้ำกันอยู่ และในไลฟ์สดก็คุยกันสนุกสนานแบบบ้านๆ ม่วนๆ จอยๆกับพี่ๆ แฟนนางงาม ทุกคนก็สอบถามคุยเล่นกันไป มีชอต1 ที่ มีแฟนนางงามชมน้องว่าน้องดีดเหมือนกะเทย น้องเลยตอบไปว่า ที่น้องดีดแบบนี้เพราะน้องมีพี่เลี้ยงเป็นกะเทยแล้วน้องก็หันไปแล้วตบสะโพกไป ให้ดูจอยๆ สนุกๆ ไม่ทันคิดว่าภาพลักษณ์จะดูไม่ดี จนพีดีได้ตำหนิมาเลยว่าทำไมทำแบบนั้นเสียภาพลักษณ์มาก ไม่เหมาะสมกับมิสแกรนด์ชลบุรี ไม่ใช่เทสชลบุรี
10.น้องขายความบ้านๆ สาวบ้านนา แม่ขายส้มตำ
เป็นแบบนี้มาสู้ในการประกวดจังหวัดจนสามารถคว้ามงกุฎมาได้ แต่พอหลังมง บอกต้องเปลี่ยนเป็นแพง หรู เทสชลให้เหมือนคนมงปีก่อนๆ ให้ได้ น้องก็พยายามทำเท่าที่น้องจะทำได้แต่น้องไม่มีชุดสวยสวยกระเป๋าหรูๆ ให้สะพาย
11.หลังจากที่พี่เลี้ยงและพีดีพูดคุยกันเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566
จะให้น้องสละตำแหน่ง จะไม่ปลด แต่ต้องมาคุยกันว่าจะสลับตำแหน่งเรื่องอะไร เพราะพี่ดีไม่เอาน้องแล้วเพราะน้องทำให้เสียภาพลักษณ์ขององค์กร และพีดีบอกทางทีมว่าเดี๋ยวจะมีการปรึกษาทางกองก่อนและจะทักมาประชุมผ่านกลุ่มไลน์ก่อน ค่อยสละตำแหน่ง แต่ไม่มีการตอบกลับมาใดๆ จนกระทั่งมีเรื่องปลดเกิดขึ้นค่ะ
12.วันที่ 25 มกราคม 2566
น้องมีนัดกับสปอนเซอร์คลินิกทันตกรรม เพื่อถ่ายรีวิวคลินิก ซึ่งน้องและทีมกำลังเดินทางไปที่คลินิก แต่พีดีสั่งห้ามไม่ให้ไป ให้เบรกไว้ก่อน ทางทีมจึงต้องกลับมา ซึ่งทำให้ต้องยกเลิกนัดกับทางคลินิกไป

#สุดท้ายนี้ ทางตัวน้องและทีมเคารพการตัดสินใจของกองประกวด และออกมาชี้แจงในประเด็นต่างๆ อย่างตรงไปตรงมา หวังว่าแฟนนางงามจะเข้าใจและ น้องขอยืนยันตรงนี้ว่าน้องรักการเป็นนางงาม รักวงการนางงาม ที่น้องพยายามมาอย่างต่อเนื่องกว่าจะมง น้องจะไม่หยุดการหาโอกาส ถึงที่นี่จะไม่ใช่ที่ของน้อง แต่สักวันน้องเชื่อว่า มันจะมีที่ให้น้องยืนอย่างสง่างาม หนูขอบคุณทุกกำลังใจจากแฟนนางงาม ขอบคุณบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ที่ทำให้น้องแข็งแกร่งขึ้น ขอบคุณจริงๆนะคะ ขอบคุณจากใจ”….

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @Kritsadaporn Nakrai