เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.สถิต เกษตรกาลาม์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ยะหริ่ง ว่า เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงพุ่งชนรถยนต์ที่จอดรอยูเทิร์น บริเวณหน้าโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ ต.ยามู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย

โดบพบภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเย็น มีรถสัญจรเยอะ ประกอบกับเป็นเวลาเลิกงาน และมีผู้ปกครองมารับนักเรียนเป็นจำนวนมาก ต่อมาเห็นรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ได้พุ่งเบียดกับรถเก๋งสีขาว ที่เป็นคันหลังสุดที่จอดรอยูเทิร์น ก่อนจะพุ่งเข้าชนรถที่จอดอยู่ถัดไปอีก 7 คัน จนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว โดยรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวยังพุ่งไปชนเสาไฟฟ้าบริเวณเกาะกลางถนน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 9 ราย และพบ 1 ราย อาการสาหัส ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลยะหริ่ง

ทั้งนี้ ร.ต.อ.สถิต ได้ติดต่อไปยังผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในรถทั้งหมด 8 คันแล้ว และกำลังเร่งสืบสวนหาสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องที่คนขับรถบรรทุกพ่วงหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ยืนยันว่าคนขับรถยังอยู่ และกำลังสืบสวนหาสาเหตุอยู่ในขณะนี้

ล่าสุด วันนี้ทางเจ้าของอู่ช่างยนต์ ได้เข้ามาประเมินความเสียหายรถทั้งหมด และอาจมี 3 คัน ที่ต้องทำการเปลี่ยนรถใหม่ เพราะสภาพรถเสียหายหนัก ส่วนเจ้าของบริษัทรถพ่วงคันดังกล่าวก็ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะหริ่ง แล้ว และกำลังรอพบผู้เสียหายทั้งหมด เพื่อจะได้พูดคุยในเรื่องค่าเสียหายต่อไป

ด้าน นายมูฮำหมัดฮาฟิซ อีแต เจ้าหน้าที่กู้ภัยอัตตะอาวุน เปิดเผยว่า ตนรับแจ้งเกิดอุบัติเหตุประมาน 16.30 น. เมื่อไปถึงก็พบว่า มีรถจำนวน 8 คัน ถูกรถพ่วงชนกันระนาว บางคันเสียหายหนักมีสภาพรถโดนอัดก๊อบปี้ ส่วนคนเจ็บพบว่าได้ออกมาจากตัวรถแล้วทุกคัน เบื้องต้นพบว่ามี 1 ราย ที่อาการสาหัส ช่วงแรกที่ตนไปถึงที่เกิดเหตุ รู้สึกตกใจมาก เห็นสภาพรถแต่ละคันก็คิดว่าต้องมีผู้เสียชีวิตแน่ แต่เมื่อไปดูพบว่าไม่มีใครเสียชีวิตจึงรู้สึกโล่งใจมาก ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าวบางคนบอกว่า รถบรรทุกพ่วงเบรกแตก บ้างก็บอกว่า รถพ่วงได้หลบรถเก๋งอีกคันก่อนไปชนรถที่จอดจะยูเทิร์น

ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า บริเวณนี้พบว่าเกิดเหตุบ่อยมาก อาทิตย์ละครั้ง เพราะว่ามีจุดบอดหลายแห่ง ไม่มีป้ายบอกว่ามีจุดยูเทิร์น ไม่มีสัญญานบอกว่าเป็นเขตโรงเรียน และป้ายบอกว่าเป็นแหล่งชุมชนก็ไม่มี ส่วนช่องยูเทิร์นกับช่องสัญจรปกติเท่ากัน ทำให้เกิดเหตุการณ์บ่อย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูและติดป้าย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซากอย่างนี้.