จากกรณีเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ขวบ เหยื่อที่ถูกคนร้ายเป็นหญิงรายหนึ่ง ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่ลำคอ บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านถนนเพิ่มสิน แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. เมื่อช่วงหัวค่ำของคืนวันเสาร์ที่ (11 ก.พ.) ที่ผ่านมา ต่อมา นายกิติพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี พ่อของเด็กหญิงเอ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน กระทั่งสามารถออกหมายจับคนร้ายไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ สน.บางเขน พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน สั่งการให้ พ.ต.ท.ไชยา ภูละมุน รอง ผกก.สส.สน.บางเขน พ.ต.ท.สมใจ รอดยัง สว.สส.สน.บางเขน พ.ต.ต.พรชัย ว่องประเสริฐการ สว.สส.สน.บางเขน นำกำลังฝ่ายสืบสวนสน.บางเขน เข้าจับกุมตัว น.ส.บุญทิพย์ ดวงแก้ว อายุ 33 ปี อาชีพออกแบบกราฟิก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 59/2566 ในข้อหา “พกพาอาวุธมีดและทำร้ายร่างกายผู้อื่น” พร้อมของกลางอาวุธมีดทำครัวยาวประมาณ 1 ฟุต ที่ใช้ก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น เอ็นแม็กซ์ สีแดง-ดำ ทะเบียน 7 กข 7715 กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมได้ที่คอนโดฯแห่งหนึ่ง ย่านถนนเทพรักษ์ ตัดใหม่ กทม.

สอบสวน น.ส.บุญทิพย์ ผู้ต้องหาอ้างว่า ไม่รู้จักกับเด็กที่ได้รับบาดเจ็บหรือแม่ของเด็กมาก่อน แต่ในวันเกิดเหตุตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่บริเวณใกล้เคียง เพื่อกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม แต่ยังไม่ทันได้กดเงิน เกิดมีปากเสียงกับแม่ค้าขายของบริเวณใกล้ดังกล่าว ตนจึงได้ขี่รถออกไปเพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนจะกลับมาที่บริเวณจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อทำการกดเงิน กระทั่งแม่และเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ เดินผ่านมาในจุดดังกล่าว ตนสังเกตเห็นว่าทั้งสองคนมองหน้าตนพร้อมกับยิ้ม ทำให้รู้สึกไม่ค่อยพอใจ ประกอบกับอารมณ์ไม่ดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงได้ใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวเป็นประจำ นำขึ้นมาเหวี่ยงบริเวณข้างตัว แต่ไม่ได้ตั้งใจให้โดนใคร ทำให้ปลายมีดไปโดนเด็กจนได้รับบาดเจ็บ

น.ส.บุญทิพย์ กล่าวต่อว่า จากนั้นตนจึงได้เดินไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มและกลับมาที่รถจักรยานยนต์ ก่อนที่จะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้ามาสอบถามเหตุการณ์ แต่เนื่องจากตนเองอารมณ์ไม่ดี จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป โดยไม่ได้มีการพูดคุยอะไร และไม่ทราบด้วยว่ามีดไปทิ่มเข้าที่คอเด็ก

ส่วนอาวุธมีดที่พกไว้ ผู้ต้องหาอ้างว่า พกติดตัวเป็นประจำเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากว่าตนเองขับขี่รถจักรยานยนต์คนเดียวเป็นประจำและมักจะไปในสถานที่เปลี่ยว จึงต้องมีอาวุธมีดไว้ใช้ป้องกันตัว ทั้งนี้ ฝากขอโทษไปยังผู้บาดเจ็บและครอบครัวกับสิ่งที่กระทำลงไปด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่พบว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยจิต สามารถพูดคุยเล่าเหตุการณ์ได้รู้เรื่อง จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นและพกพาอาวุธมีดโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.