เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายนิพนธ์ ตู้บันเทิง อายุ 58 ปี เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ “ปักกิ่ง” ตั้งอยู่เลขที่ 59/2 ถนนเขาพนม หมู่ 6 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราชว่า เมื่อเดือนกันยายน 2565 ตนได้รู้จักกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ชาวอ.นาบอน จ.นครสีธรรมราช หลังจากเข้าซื้อของที่ร้านบ่อยครั้ง จนกลายเป็นลูกค้าประจำ ภายหลังฝ่ายหญิงได้เล่าเรื่องในครอบครัวให้ฟังว่า

น.ส.บี (นามสมมุติ) พี่สาวของ น.ส.เอ มีรูปร่างหน้าตาดี ยังเป็นโสด (มีการนำรูปมาให้ดู) ตอนนี้พี่สาวป่วยหนักเพราะโรคมะเร็งที่ปอดรุมเร้า จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการรักษาตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องผ่าตัดเปลี่ยนปอดใหม่ จึงอยากหยิบยืมเงินไปจ่ายค่ารักษาพี่สาวก่อน หากขายบ้านเรือนไทย พร้อมสวนยาง 60 ไร่ ก็จะได้เงินมาประมาณ 60 ล้านบาท ก็จะนำมาใช้คืนอย่างแน่นอน

นายนิพนธ์ เล่าอีกว่า ด้วยความเป็นคนใจบุญ และเห็นว่าสนิทกัน จึงยอมให้ยืมเงินไปรักษา น.ส.บี โดยโอนให้ไปทั้งหมด 40 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 7 ล้านกว่าบาท โดยทุกครั้ง น.ส.เอ จะอ้างว่าต้องการเงินไปจ่ายค่าผ่าตัดและค่ายารักษา ที่ผ่านมาตนขอดูรูปการรักษา หรือตอนที่ น.ส.บี นอนอยู่ รพ. แต่อีกฝ่ายก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด

ภายหลังเรื่องแดง ตนมาทราบว่ารูปที่ใช้นำมาอ้างนั้นไม่ใช่ น.ส.บี แต่เป็นดาราสาวคนหนึ่ง อีกทั้งบ้านเรือนไทยที่ส่งรูปมาให้ดูก็ไม่มีอยู่จริง จึงติดตามทวงถามขอเงินคืน ปรากฏว่า นายเอก (นามสมมุติ) สามีของ น.ส.เอ โทรศัพท์มาข่มขู่บอกว่ามีให้แค่เพียง 3 แสน ถ้าไม่อยากมีปัญหาก็ให้เรื่องจบไป ตนจึงเดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ พร้อมประสานทนายความ ให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียอีกฝ่ายทันที อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นอุทาหรณ์ เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจและความสงสาร ทำให้ตนต้องสูญเงินไปถึง 7 ล้านกว่าบาท.