เมื่อวันที่ 16 ก.พ. นายเอนก ปันทะยม ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่าในอ.ปาย ว่า มีการเกิดไฟป่ามากกว่าอำเภออื่น ๆ ทางอำเภอจึงได้ดำเนินมาตรการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเส้นทางเข้าป่า สกรีนคนที่เข้าไปหาของป่าอย่างเข้มงวด และจากค่าฝุ่นละอองพิษในอากาศที่เกินมาตรฐานต่อเนื่องมาแล้ว 15 วัน เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว จึงได้มีการนำรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลปาย และแต่ละ อบต. ทำการฉีดพ่นฝองละอองน้ำเพื่อลดค่าฝุ่นพิษในอากาศ

ทางด้าน สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) สรุปสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ในพื้นที่รับผิดชอบ รายงานว่า ค่า PM2.5 มีค่าระหว่าง 48-174 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “ปานกลาง ถึง มีผลกระทบต่อสุขภาพ” (ค่ามาตรฐานเกิน 50 มคก./ลบ.ม.) Hotspot เกิดขึ้นจำนวน 406 จุด (เชียงราย 22 จุด เชียงใหม่ 205 จุด แม่ฮ่องสอน 146 จุด และลำพูน 33 จุด) คาดการณ์การสะสมของฝุ่นละอองวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) คุณภาพอยู่ในระดับ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ”

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าที่รุนแรงมากขึ้นทุกขณะ เจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องออกไปดับไฟป่าตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะป่าในพื้นที่เขตอนุรักษ์ และสองข้างทางหลวง หมายเลข 108 สายแม่ฮ่องสอน-อ.แม่สะเรียง และทางหลวงหมายเลข 1095 สายแม่ฮ่องสอน-อ.ปาย มีการลอบจุดไฟเผาป่าเป็นจำนวนมาก และมีจำนวนมากเช่นกันที่ไม่สามารถดับไฟป่าได้ เนื่องจากมีการลอบเผาในป่าบนเทือกเขาสูง ไม่สามารถเดินทางเข้าไปดับไฟป่าได้ ต้องปล่อยให้ไฟป่าลามไปจนมอดไปเอง ซึ่งใช้เวลาหลายวันกว่าเชื้อเพลิงใบไม้ในป่าจะหมดลง