เมื่อวันที่ 16 ก.พ. คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเขตยอร์กเชียร์เหนือ ประเทศอังกฤษ นำโดย นายอดัม ฮาร์แลนด์ ผู้ควบคุมทีมสืบสวน “โคลด์ เคส” (cold case) เดินทางมาติดตามคดีฆาตกรรมปริศนา ที่พบศพในอุทยานแห่งชาติยอร์กเชียร์ ตั้งแต่ 20 ก.ย. 2547 ซึ่งคนในท้องถิ่นตั้งชื่อเธอว่า “สตรีแห่งขุมเขา” มี นายอุดมการ วโรตม์สิกขดิตถ์ ผอ.กิจการต่างประเทศและวิเทศสัมพันธ์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ประสานงานอำนวยความสะดวก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสองวันที่ผ่านมา นายอดัม ฮาร์แลนด์ ผู้ควบคุมทีมสืบสวน “โคลด์เคส” พร้อมคณะ และเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอเดินทางมาที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลบ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี นัดหมายบันทึกปากคำนางจูมศรี สีกัลยา อายุ 76 ปี และสามี ราษฎร บ้านโพน ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี แม่และพ่อของนางลำดวน สีกัลยา หรือ อาร์มิเทจ หรือสตรีแห่งขุมเขา หลังจากการติดตามและตรวจดีเอนเอยืนยันว่า ศพเป็น นางลำดวน เมื่อ 20 มี.ค. 2562 ตั้งแต่พบศพจนถึงวันนี้รวมกว่า 19 ปี
โดย นายอุดมการ และนายอภิวัฒน์ กอมพนม นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ สนง.ยุติธรรม จ.อุดรธานี พร้อมคณะได้อำนวยความสะดวก ประสานงานจัดหาสถานที่ ที่อยู่ห่างจากบ้านพักนางจูม และสามีไม่มากนัก พร้อมเจ้าหน้าที่บันทึกเทป-เทปโทรทัศน์, ล่ามแปลภาษา(อีสาน-ไทย-อังกฤษ) และบันทึกถ้อยคำเป็นภาษาไทย ซึ่งจากปัญหาเรื่องภาษา การบันทึกถอยคำใช้ต่อเนื่องตลอด 2 วัน วันละมากกว่า 10 ชม.
นายอุดมการ กล่าวว่า ดีเอสไอมาเพียงประสานงาน และอำนวยความสะดวก จากกรณีที่เราเคยทำมาตั้งแต่ การตามหญิงชาวเอเชียนิรนามเสียชีวิต “สตรีแห่งขุมเขา” จนมีการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอยืนยันว่าเป็น นางลำดวน จริงวันนี้ตำรวจอังกฤษมาตามคดี การเสียชีวิตของนางลำดวน ประสานผ่านอัยการสูงสุดตามระเบียบ อัยการสูงสุดก็มอบหมายให้ ดีเอสไอมาประสานงาน
นายอดัม ฮาร์แลนด์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้เดินทางมาติดตามคดีนี้ เพราะรอมานานตั้งแต่รู้ผู้ตายเป็นใคร แต่ต้องมาติดปัญหาการระบาดโควิด-19 คดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมปริศนา การมาก็เพื่อบันทึกปากคำครอบ ครัว ญาติพี่น้อง และบุคคลอื่นที่รู้จักผู้ตาย โดยมีเวลาทำงานที่ประเทศไทยราว 2 สัปดาห์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลักฐานที่ได้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ่อแม่ของนางลำดวน ต้องการนำร่างหรือเถ้ากระดูกของเธอกลับมาบ้านที่ประเทศไทยจะดำเนินการได้หรือไม่ได้ นายอดัม กล่าวว่า มีขั้นตอนในการจัดการอยู่ มีแผนกที่จะอธิบายเรื่องนี้ (NorthYorkshire Police Media) สอบถามที่นั่นได้โดยตรง ซึ่งอยู่ที่ความประสงค์ของครอบครัวคือสามีและลูก (ขณะนี้สามีอยู่ประเทศไทย) จากคำถามคดีนี้จะสิ้นสุดเมื่อใดนายอดัม กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้เลย
นางจูมศรี กล่าวว่า เกือบ 19 ปีแล้วที่ลูกจากไป และผ่านมา 4 ปีแล้วที่เพิ่งรู้ว่าลูกตาย แต่ก็ยังไม่ได้เถ้ากระดูกลูกกลับมา วันก่อนเจ้าหน้าที่ แจ้งให้ไปพบตำรวจอังกฤษ ถึงวันนัดก็ตื่นแต่เช้า นึ่งข้าวห่อไปกินข้าวเช้าที่ ทต.บ้านธาตุ ไปคอยตอบคำถามเข้าอยู่ 2 วัน ตั้งแต่เช้าจน 2 ทุ่มไม่เหนื่อย เพราะทำนาทำสวนหนักกว่านี้ แต่อยู่ในห้องแอร์มันหนาว
“เขาถามมาก็ตอบไป อะไรจำได้ก็บอก จำไม่ได้ก็บอกจำไม่ได้ทั้งหมดก็เป็นเรื่องเดิมๆ ที่เราเคยบอก เคยให้ข้อมูลไปก่อนหน้านี้แล้วไม่รู้สึกอะไรที่ ตำรวจอังกฤษมาสอบถาม ตอบคำถามไปแล้ว ก็ว่ากันไปเท่านั้นเพราะมาก็ถาม แต่เรื่องเก่าๆ ไม่รู้จะมาถามอะไร ไม่มีเรื่องใหม่มาบอกกันเลยยาย ก็ไม่ได้ถามเรื่องเถ้ากระดูกลูกสาว ไม่รู้จะถามไปทำไมถ้าเขาจะเอามาให้ก็เอามาให้แล้ว” นางจุมศรี กล่าวและว่า ไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้วพูดมาก็เหนื่อยทั้งใจ เหนื่อยทั้งกาย ไม่ได้มีความหวัง ซึ่งหลังจากทำบุญอุทิศให้ลูกสาวไปก็ไม่ฝันเห็นลูกสาวอีกเลย มีเพียงน้องสาวที่ฝันเห็นว่ายังอยู่กับลูก คงเป็นห่วง ส่วนสามี ลูกสาว และหลานก็เงียบไปหมด แม้เขาจะอยู่ในประเทศไทยก็ตาม วันนี้ไม่อยากเรียกร้องอะไร เพราะเรียกร้องไปหมดแล้ว จะขออยู่เฉยๆ หากมีเงินทองก็จะทำบุญไปให้อีก.
