เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีปรากฏข่าว พ.ต.ท.ไพบูลย์ พูนมะณี สว.กก.เก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด บก.สส.จชต. มีหนังสือร้องทุกข์กรณีไม่ใด้รับการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในการแต่งตั้งวาระประจำปี 2565 ว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ความสำคัญกับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจทุกระดับ แม้ว่าการแต่งตั้งระดับ รอง ผกก.- สว. จะเป็นอำนาจ ผบช. แต่ได้กำชับให้พิจารณาตามความเหมาะสม ยึดทั้งหลักอาวุโส ผลงาน ความรู้ความสามารถ เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย โดยหลังจากทราบเรื่องได้ให้ ภ.9 ชี้แจงการแต่งตั้งของ พ.ต.ท.ไพบูลย์ ให้ชัดเจน

โฆษก ตร. กล่าวว่า ภ.9 แจ้งว่า พ.ต.ท.ไพบูลย์ ดำรงตำแหน่งอยู่ในกลุ่มงานเทคนิค ซึ่งถูกกำหนดให้เป็น “ตำแหน่งเฉพาะทาง” โดยตาม กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2561 ข้อ 28(2) ข้าราชการตำรวจที่จะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ รอง ผบก. ลงมาถึงระดับ สว. ให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนร้อยละ 33 ของจำนวนตำแหน่งว่าง แต่ให้ใช้บังคับกับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ซึ่งดำรงตำแหน่งทั่วไป ที่มิใช่ตำแหน่งเฉพาะทาง แม้ พ.ต.ท.ไพบูลย์ จะมีรายชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีลำดับอาวุโสระดับ สว. ลำดับที่ 12 ของ ภ.9 แต่เนื่องจาก พ.ต.ท.ไพบูลย์ อยู่ในกลุ่มงานเทคนิค ซึ่งถูกกำหนดให้เป็น “ตำแหน่งเฉพาะทาง” และไม่สามารถนำมารวมในกลุ่มอาวุโส 33% ของตำแหน่งทั่วไปได้ ต้องนำไปคิดในกลุ่มสายเทคนิคด้วยกัน ซึ่งในวาระประจำปี 2565 ไม่มีตำแหน่งสายงานสรรพาวุธในระดับ รอง ผกก. ว่าง จึงไม่สามารถแต่งตั้ง พ.ต.ท.ไพบูลย์ ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.สายงานสรรพาวุธในกลุ่มอาวุโสได้

“ส่วนข้าราชการตำรวจระดับ สว. ที่ดำรงตำแหน่งทั่วไป ที่จะต้องเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเป็น รอง ผกก. ในกลุ่มอาวุโสร้อยละ 33 ตามกฎ ก.ตร. จำนวน 16 ราย จากตำแหน่งว่างทั้งหมด 50 ราย ภ.9 ได้พิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตามลำดับอาวุโสทุกราย (ลำดับที่ 1-11 และลำดับที่ 13-17) โดยการแต่งตั้งในครั้งนี้จึงเป็นไปตามกฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง เพราะตำแหน่งทางเทคนิคเฉพาะทางถูกกำหนดไว้โดยเฉพาะแล้ว ไม่เพียงเฉพาะตำแหน่งนี้เท่านั้น นักบินหรือตำแหน่งเฉพาะทางอื่นๆ ก็จะต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ตร. กำหนดนี้ เช่นเดียวกัน” พล.ต.ต.อาชยน กล่าว

โฆษก ตร. กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้รับทราบปัญหานี้แล้ว สำหรับกรณี พ.ต.ท.ไพบูลย์ รู้สึกเห็นใจและจะรับไว้พิจารณาเป็นกรณีเร่งด่วน อีกทั้งจะได้มีการเรียกหารือส่วนที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการวางหลักเกณฑ์ เพื่อให้ข้าราชการตำรวจที่เป็นกลุ่มเฉพาะทาง โดยเฉพาะตำแหน่งที่มีความเสี่ยงเช่นเจ้าหน้าที่ EOD มีความเจริญเติบโตก้าวหน้าในหน้าที่การงานในอนาคตให้มากที่สุด

พล.ต.ต.อาชยน กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับมาตลอด เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจต้องเป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย พิจารณาทั้งหลักอาวุโส ผลงานที่สำคัญ ห้ามมีการเรียกรับทรัพย์สิน หรือซื้อขายตำแหน่งโดยเด็ดขาด ส่วนการแต่งตั้งกรณีอื่น ทั้งที่มีข่าวการซื้อขายตำแหน่ง หรือถูกกลั่นแกล้งหากมีหลักฐานสามารถแจ้งมา สามารถยื่นผ่านหน่วย ผ่าน ตร. หรือช่องทางจเรตำรวจ หรือ งานระบบร้องเรียน JCoMS หรือทางโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทุกช่องทาง โดย ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำอีกว่าหากได้รับข้อมูลจะเร่งตรวจสอบทันที หากพบมีมูลจริง จะมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้เกี่ยวข้อง ทั้ง อาญา วินัย และปกครอง.