เมื่อเวลา 13.30 น. ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแกนนำพรรค อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 16 เขต เข้าสักการะย่าโมเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมได้ทำพิธีชักดาบเพื่อประกาศชัยชนะ และห่มสไบให้กับย่าโม เพื่อให้พรรค พท. แลนด์สไลด์ทั้งจังหวัด ท่ามกลางประชาชนมารอต้อนรับและให้กำลังใจจำนวนมาก โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราหวังว่าที่โคราชจะต้องแลนด์สไลด์ ส่วนคำอธิษฐานนั้นตนขอไว้ในใจแล้ว

เมื่อถามว่าวันนี้พกความมั่นใจมาให้ชาวโคราชอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้เรามาเสนอนโยบายให้คนโคราชฟังว่า เมื่อเลือกพรรค พท. คนโคราชจะได้อะไรบ้าง เราจะทำอะไรให้คนโคราชบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วในการปราศรัยทุกพื้นที่ เราจะมีนโยบายในแต่ละพื้นที่ เพราะแต่ละพื้นที่มีปัญหาไม่เหมือนกัน วันนี้เราได้เสนอเรื่องของที่ดินทำกิน น้ำท่วม และการเกษตรกร

เมื่อถามว่า การที่ได้นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และทีมเศรษฐกิจ เข้ามาร่วมงานด้านเศรษฐกิจ จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจให้กับชาวโคราชได้อย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคได้เปิดตัวทีมเศรษฐกิจ รวมถึงนายเศรษฐาด้วย ก็รู้สึกมีกำลังใจ ว่าเราได้คนที่มีความสามารถจริงๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศได้ มาช่วยเหลือประชาชนได้ เป็นความหวังที่ทีมเศรษฐกิจเราแข็งแรง มีแต่คนเก่งๆ และตนได้ขอคำปรึกษาอยู่บ่อยครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นายเศรษฐา คือหนึ่งในคนที่มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนคิดว่าเหมาะสม เพราะท่านเป็นคนเก่ง มีความสามารถ คิดว่าจากการที่ท่านบริหารธุรกิจประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ใครๆ ก็ทำได้ ส่วนการจะประกาศชื่ออย่างเป็นทางการ ก็ต้องรอกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ก่อน

เมื่อถามว่า นายเศรษฐา ก็ชัดเจนว่า ตำแหน่งที่ต้องการคือนายกฯ นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนคิดว่านายเศรษฐาต้องการจะพูดว่า ต้องการจะขับเคลื่อนนโยบาย เพราะก่อนที่จะมีการเปิดตัวเป็นทีมเศรษฐกิจ ท่านก็เข้ามาช่วยงานด้านนโยบายอยู่แล้ว ซึ่งท่านพูดว่า ตำแหน่งนายกฯ จะเป็นตำแหน่งที่ผลักดันนโยบายได้มากที่สุด ก่อนหน้านี้นายเศรษฐาไม่ได้สนใจจะเป็นนักการเมือง ท่านคงพูดในภาพรวมว่า ถ้าจะเป็นจริงๆ นายกฯ จะสามารถผลักดันนโยบายได้แต่ตำแหน่งอื่นๆ ท่านไม่ได้มีความรู้และความสนใจ

เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของนายเศรษฐาจะเป็นการกดดันพรรค พท. หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่เลย ท่านก็พูดเองว่า หากไม่เสนอก็ไม่ได้ว่าอะไร คุณเศรษฐาไม่ได้พูดว่าต้องเป็นนายกฯ เท่านั้น ไม่งั้นไม่ช่วย ไม่ใช่เลย คุณเศรษฐาช่วยมาตลอด

เมื่อถามอีกว่า จะส่งไม้ต่อให้นายเศรษฐาอย่างไร เพราะหลังจากนี้ น.ส.แพทองธาร ต้องมีการพักจากการลงพื้นที่บ้าง เพราะอายุครรภ์ 7 เดือนกว่าแล้ว น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้ส่งไม้ต่อเฉพาะนายเศรษฐาเท่านั้น แต่ส่งให้ทุกคนที่ต้องช่วยตน ซึ่งช่วงที่ตนใกล้จะคลอด อาจจะต้องมีการเว้นจากการลงพื้นที่บ้าง แต่ตอนนี้ยังไหวอยู่ ขณะนี้ตนวางคิวงานไว้ถึงปลายเดือน มี.ค. และจะมีการปรึกษากับคุณหมอไปเรื่อยๆ และที่เรามานี้ เราก็ไม่ได้โหดร้ายกับตัวเอง

ต่อคำถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ระบุว่า การบริหารประเทศ ไม่ใช่การบริหารธุรกิจในครอบครัว มองอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เป็นการแสดงความเห็นของท่าน สำหรับตนคิดว่าการบริหารไม่ใช่เรื่องง่าย และทราบดีว่ามีหลายปัจจัยมากๆ ในการบริหารธุรกิจ แต่การบริหารประเทศยิ่งไปกว่านั้น ฉะนั้นจึงต้องอาศัยหลายความคิด หลายสมอง หลายความรู้ เข้ามาช่วยกัน.