สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 7 มี.ค. เกี่ยวกับความคืบหน้าหลังเกิดเหตุเรือ “ปริ๊นเซส เอ็มเพรส” ติดธงชาติฟิลิปปินส์ ซึ่งบรรทุกน้ำมันเตาประมาณ 800,000 ลิตร เกิดปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องและอับปางกลางทะเล ระหว่างเดินทางจากจังหวัดบาตาอัน ใกล้กับกรุงมะนิลา ไปยังจังหวัดอีโลอีโล ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ยามฝั่งให้ความช่วยเหลือลูกเรือได้ทั้ง 20 คน ก่อนเรืออับปาง
กระทรวงสิ่งแวดล้อมของฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ว่า เรือลำดังกล่าวจมอยู่ที่ระดับความลึกประมาณ 366 เมตร จากผิวน้ำ และสาเหตุการณ์อับปางของเรือ ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดี สื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานว่า อาจเป็นเพราะสภาพอากาศแปรปรวน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างคำนวณปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลออกมา แม้ตอนนี้ “มีความเชื่อมั่น” ว่า สามารถระบุตำแหน่งของเรือได้แล้ว แต่เป็นระดับที่ลึกเกินกว่านักประดาน้ำจะดำลงไปตรวจสอบ จึงอาจต้องมีการใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีในระดับสูง ในการช่วยตรวจสอบ
Authorities in the Philippines believe they've located the wreck of the oil tanker MT Princess Empress that sank off its coast last week. Local communities race to determine the extent of oil spill and contain further environmental damage https://t.co/65VX3xHWfP pic.twitter.com/6fNWpSt14k
— Reuters (@Reuters) March 6, 2023
อนึ่ง ทุกภาคส่วนในฟิลิปปินส์ยังคงวิตกกังวลอย่างหนักว่า พื้นที่อนุรักษ์ทางธรรมชาติในบริเวณนั้น ซึ่งมีอยู่ 21 แห่ง จะได้รับผลกระทบอย่างหนักในทางสิ่งแวดล้อม โดยรวมถึงแนวปะการังที่มีอาณาเขตครอบคลุม 88,958 เอเคอร์ นอกจากนี้ ทะเลในบริเวณนั้นยังเป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงของฟิลิปปินส์ด้วย

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ครอบคลุม 9 เมือง ของจังหวัดโอเรียนตัลมินโดโร เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากส่วนกลาง เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ชาวประมงไม่สามารถจับปลาได้ชั่วคราว ส่วนบริษัท อาร์ดีซี รีลด์ มารีน เซอร์วิสเซส ซึ่งเป็นเจ้าของเรือปริ๊นเซส เอ็มเพรส ยืนยันการรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด.
เครดิตภาพ : REUTERS