เมื่อวันที่ 13 มี.ค. บริเวณศาลาอเนกประสงค์ริมพรุเฉวง ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และคณะได้เดินทางลงพื้นที่อำเภอเกาะสมุย เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ และความก้าวหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญในพื้นที่ภาคใต้ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง โดยรองนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ตรวจและติดตามโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนบ้านบางรัก ระยะที่ 1 และโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมพรุเฉวง โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ให้การต้อนรับพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนต่างให้การต้อนรับ จากนั้น คณะรองนายกรัฐมนตรีได้ชมพังการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย

โดย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้นำเสนอสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า ปัญหาน้ำท่วมเกิดจากปริมาณน้ำหลากในพื้นที่ตอนบนของแม่น้ำพุมดวง และลำน้ำคดเคี้ยวทำให้มีน้ำท่วมจนทำให้ลำน้ำสายหลักไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ประกอบกับน้ำทะเลหนุนระบายน้ำได้ยาก มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ และมีการถมที่บุกรุกแก้มลิงตามธรรมชาติ พบพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำหรับปัญหาภัยแล้ง ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดพบปัญหาภัยแล้งในระดับต่ำ

นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้นำเสนอการดำเนินงานโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนบ้านบางรักษ์ ตำบลย่อผุด ระยะที่ 1 รวมถึงโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมพรุเฉวง ซึ่งเกาะสมุยมีพื้นที่ 228 ตารางกิโลเมตร มีภูเขาอยู่กลางเกาะโดยมีชุมชนกระจายในพื้นที่ราบรอบเกาะ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าปัญหาน้ำท่วมเกิดจากการปลูกสร้างในทางน้ำสาธารณะและการขยายรวมถึงการยกระดับถนนสายรอบเกาะสมุย ทำให้เป็นอุปสรรค์ในการระบายน้ำลงสู่ทะเล จากปัญหาดังกล่าวกรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ออกแบบเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมเกาะสมุยในปี 2553 โดยสามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวน 8 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ชุมชนเฉวง, ชุมชนละไม, ชุมชนแม่น้ำ, ชุมชนบ่อผุด, ชุมชนบางรัก, ชุมชนปลายแหลม และชุมชนหน้าทอน ซึ่งมีการออกแบบท่อระบายน้ำให้มีขีดความสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้ถึง 120 มิลลิเมตร พร้อมปรับปรุงคลองให้มีความพร้อมรองรับปริมาณน้ำฝนให้มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นในการระบายน้ำ

จากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อติดตามการใช้งบประมาณที่ได้อนุมัติเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เกาะสมุย พร้อมติดตามความก้าวหน้าขอโครงการ ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ได้ดูแลปัญหาน้ำพบว่ามีความก้าวหน้า และพร้อมขับเคลื่อนปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งให้แก่ประชาชน และได้เตรียมที่จะขุดลอกอ่างเก็บน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ ให้มีความลึกเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนได้มากขึ้นและยังเป็นการแก้ปัญหาภัยแล้งอีกด้วย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขอให้มีความเชื่อมั่นในรัฐบาลเพราะตลอดระยะเวลาที่บริหารประเทศ รัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแต่ด้วยปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การพัฒนาล่าช้า ซึ่งรัฐบาลได้มีการกระจายงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนตลอดมา

นอกจากนี้ รองนายกนัฐมนตรีได้อ้อนชาวเกาะสมุย หากต้องการให้ตนเองได้กลับมาแก้ปัญหาน้ำให้ ต้องเลือกตนเองให้กลับมาอีกครั้ง เพราะขณะนี้ใกล้เวลาที่จะเลือกตั้งแล้ว จากนั้นพล.อ.ประวิตร ได้เดินทักทายชาวบ้านที่มาตอนรับโดยส่วนใหญ่เป็นสมาชิก อสม. พร้อมรับมอบดอกกุหลาบ โดยได้ส่งเสียงให้ลุงป้อมสู้ๆ ตลอดทาง นอกจากนี้บรรดาแฟนคลับลุงป้อมได้เข้ามาหอมแก้มสร้างความปลาบปลื้มใจให้แก่ พล.อ.ประวิตร อย่างมาก ก่อนเดินทางต่อด้วยเครื่องบินเจ็ตของกองทัพบก เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดชุมพรตรวจราชการเป็นสถานที่ต่อไป.