ช่วงเย็นวันที่ 18 มี.ค. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ เข้าตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 1 ชค 6336 กรุงเทพมหานคร ได้จากเต๊นท์รถเช่าแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง หลังสืบทราบว่า เป็นยานพาหนะที่ใช้กระทำความผิดในคดีอุ้มรีดทรัพย์ น.ส.แนนซี่ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว และนักศึกษา ระดับปริญญาโท สัญชาติจีน เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา ในท้องที่ สน.ทองหล่อ โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้เงินสกุลหยวนและเงินสกุลคริปโตฯ ไปจากผู้เสียหายกว่า 3.3 ล้านบาท

การตรวจยึดรถหรูจากเต็นท์เช่าย่านห้วยขวางคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา น.ส.แนนซี่ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความกีบพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่า เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 16 มี.ค.ขณะที่ตนนัดหมายกับเพื่อนสาวชาวจีน ชื่อ น.ส.หลินปิง (นามสมมุติ) อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งย่านเอกมัย ระหว่างเดินทางกลับ ตนและ น.ส.หลินปิง ได้ลงมาที่ลานจอดรถ เพื่อขึ้นรถยนต์โตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีดำ โดยมีชายชาวจีน 2 คน ที่ไม่รู้จักมาก่อนขับมารอรับ แต่ระหว่างกำลังจะขึ้นรถนั้น 1 ในคนร้ายได้ใช้กรรไกรปรี่เข้ามาจี้ตน บังคับห้ามส่งเสียง ก่อนจะจับมัดมือ และปิดตา พาตนขึ้นรถขับออกไป โดยระหว่างนั้น น.ส.หลินปิง ก็โดนบังคับขึ้นรถมาด้วย ก่อนที่คนร้ายจะบังคับเอาโทรศัพท์มือถือของตนไปโอนเงินสกุลหยวน จำนวน 250,000 หยวน และเงินคริปโตฯ จำนวน 8,000 USTD เข้าบัญชีปลายทางซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใด

น.ส.แนนซี่ ให้การอีกว่า ตนและ น.ส.หลินปิง อยู่บนรถกับผู้ต้องหา 1 คืน โดยระหว่างนั้นคนร้ายได้บังคับให้ตนติดต่อไปหาแฟนหนุ่มที่ประเทศจีน เพื่อขอให้โอนเงินคริปโต อีก 50,000 USTD เข้าที่แอปพลิเคชัน imtoken ซึ่งเป็นบัญชีของตน เมื่อแฟนหนุ่มโอนมาแล้ว คนร้ายก็ได้นำโทรศัพท์ตนไปโอนต่อเข้าบัญชีปลายทาง ก่อนทำการลบแอปพลิเคชั่น กับข้อความสนทนากับทั้งแฟนหนุ่มและญาติ ๆ ผ่านวีแชต ทั้งหมด จากนั้นคนร้ายทั้ง 2 คน ได้พาตน และ น.ส.หลินปิง ไปปล่อยทิ้งไว้ริมถนนย่านมีนบุรี ตนจึงรีบหาทางเดินทางกลับที่พักในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านอโศก โดยแยกย้ายกับ น.ส.หลินปิง ก่อนนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพียงลำพังส่วน น.ส.หลินปิง ได้หายตัวไป

หลังรับแจ้งความชุดคลี่คลายคดี ได้เดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ร้านอาหารจุดเกิดเหตุตามที่ น.ส.แนนซี่ ให้ข้อมูล พบภาพ น.ส.แนนซี่ และ น.ส.ชุนหลี ขึ้นรถโตโยต้า อัลพาร์ด ของกลางไปจริง โดย น.ส.แนนซี่ นั้นถูกคนร้ายใช้กรรไกรจี้ และใช้ผ้าผูกตาตรงตามคำให้การ ส่วน น.ส.หลินปิง นั้นเดินขึ้นรถไปเฉย ๆ คล้ายมีการวางแผนรู้เห็นกับคนร้ายมาก่อน และจากการตรวจสอบที่มาของรถคันดังกล่าว ทำสัญญาเช่าไว้กับเต็นท์ตั้งแต่วันที่ 15-17 มี.ค. 2566 ในราคาวันละ 5,000 บาท โดยรถถูกส่งคืนเต็นท์ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.ตามสัญญา

ขณะที่ ฝ่ายสืบสวนได้เชิญตัวเจ้าของเต็นท์มาสอบปากคำแล้ว เชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับการติดต่อจากลูกค้าชายชาวจีน ขอเช่ารถของกลางไปใช้ วันละ 5,000 บาท เมื่อครบกำหนดระยะเวลาลูกค้าก็นำรถมาส่งคืน โดยหลังจากนี้จะติดตามตัว น.ส.หลินปิง และผู้ต้องสงสัยชายชาวจีน อีก 2 ราย มาดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งล่าสุดพบว่าผู้ต้องสงสัยทั้งชายและหญิง รวม 3 ราย น่าจะยังอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากประสานข้อมูลกับทาง สตม.แล้วยังไม่พบว่าเดินทางออกนอกราชอาณาจักร.