จากเด็กชายน้อย ๆ คนหนึ่งกลายเป็น “มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่” ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งโลก อะไร? ที่เปลี่ยนชีวิตของเด็กน้อยผู้นี้ เราอาจจะมองเห็น “ความสำเร็จของพระพุทธเจ้า” แต่เราอาจจะลืมมอง “เบื้องหลังแห่งความสำเร็จ” ว่า เด็กน้อยคนนี้ ได้เผชิญกับอะไรมาบ้าง ถึงมายืน ณ จุดนี้ ได้อย่างไร?

เด็กน้อยคนนี้ เกิดมาพร้อมกับเป้าหมายของชีวิต ที่ชัดเจนและหนักแน่น แม้จะใช้เวลาหลายปีในการไปให้ถึงเป้าหมาย เด็กน้อยคนนี้ขณะที่เขาเดินไปสู่เป้าหมาย เขาล้มลุกคลุกคลาน ต้องเผชิญกับเรื่องราวที่ผ่านเข้ามากระทบกับชีวิตด้วยความอดทน เด็กน้อยคนนี้เมื่อเขารู้ว่าทางที่เดินไปสู่เป้าหมายเป็นเส้นทางที่ผิด เขาจะไม่ดันทุรังทำต่อ แต่เขาจะปรับปรุง แก้ไขตลอดเวลา ที่สำคัญ เด็กน้อยคนนี้ บอกตัวเองอยู่ตลอดว่า “ที่ 1 เท่านั้นที่เขาจะไปให้ถึง เป้าหมายที่ชัดเจน เดินไปด้วยความอดทน เริ่มใหม่เมื่อผิดพลาด หนักแน่นกับสิ่งที่ทำ” นี่คือ “รหัสลับของมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่”

หากจะถามว่า “ความฝันของชีวิตนั้น จะสำเร็จได้อย่างไร” คำตอบคือ “ด้วยตัวของเราเอง” ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จดั่งที่ฝันไว้   

ลองสมมุติ ชีวิตของเรากับเกมฟุตบอล ถ้าเราชื่นชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ลองสมมุติตัวเราเองเป็นเกมฟุตบอล 3 เกม

เกมที่ 1 นั่งดูการแข่งขันฟุตบอล ทีมที่เราชอบที่บ้านทางโทรทัศน์ การแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของทีมที่เราเชียร์ เกมที่ 2 นั่งดูการแข่งขัน ฟุตบอลทีมที่เราชอบที่ขอบสนาม การแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของทีมที่เราเชียร์ ได้ขอลายเซ็น ได้ถ่ายรูป กับนักฟุตบอลที่ชื่นชอบ เกมที่ 3 มีโอกาสถูกคัดเลือกให้เป็นนักฟุตบอลทีมที่เราชอบ เวลาการแข่งขันครบ 90 นาที กรรมการกำลังจะเป่านกหวีด เรายิงประตูได้ทันเวลา การแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะด้วยการยิงประตูด้วยตัวของเราเอง

หากเปรียบความฝันของเราเหมือนเกมฟุตบอลทั้ง 3 เกมนี้ เราอยากให้ความฝันของเราเป็นเกมที่ 1 เกมที่ 2 หรือเกมที่ 3

ถ้าเราเลือกให้ความฝันของเราเป็นเกมที่ 1 ก็หมายความว่าเราเลือกที่จะนั่งมองความฝันของเรา เหมือนการที่เรานั่งดูการแข่งขันฟุตบอลทางโทรทัศน์ สุดท้ายก็ได้แค่ดูและเชียร์ความสำเร็จของคนอื่น ถ้าเราเลือกให้ความฝันของเราเป็นเกมที่ 2 ก็หมายความว่าเราเลือกที่จะไปมีส่วนร่วมกับความฝันของเรา แบบใกล้อีกนิด เหมือนการที่เรานั่งดูการแข่งขันฟุตบอลที่ขอบสนาม สุดท้ายก็ได้แค่ชื่นชมความสำเร็จอยู่ใกล้ๆ

แต่ถ้าเราเลือกให้ความฝันของเราเป็นเกมที่ 3 แสดงว่า เราเลือกที่จะทำความฝันให้สำเร็จด้วยตัวของเราเอง เหมือนการที่เราเป็นตัวจริงในเกมฟุตบอล ซึ่งทำให้เราทำความฝันได้สำเร็จโดยเกิดขึ้นจากตัวเรา

หากใครที่อยากจะเป็นตัวจริงของความฝัน จงตั้งใจด้วยความมุ่งมั่นด้วยความหวังและเชื่อว่าสักวันเราจะสามารถเดินไปถึงจุดหมายที่ปลายฝันได้อย่างมีความสุขด้วยพลังของหัวใจ ที่สำคัญอย่าเพียงคิด แต่จงลงมือทำ คือ ค้นหาจุดเด่นของตัวเอง ฝึกฝนให้ดีพอ แสวงหาโอกาส มีแรงบันดาลใจ มีเป้าหมายชัดเจน

ทุกครั้งที่เราเจอกับปัญหา และอุปสรรคเพียงครั้งสองครั้ง คนส่วนใหญ่มักจะบอกกับตัวเองว่า “พอแล้วนะ” “ไม่ไหวแล้วนะ” แต่คนที่ประสบความสำเร็จ มักบอกกับตัวเองเสมอว่า “จะพยายามทุกครั้ง และไม่มีจุดสิ้นสุดของความพยายาม”

……………………………………………

คอลัมน์ : ลานธรรม

โดย : พระครูปลัดบัณฑิต อินฺทเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสังข์กระจายวรวิหาร รองประธานเครือข่ายธรรมะอารมณ์ดี