เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่ สน.ทองหล่อ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้าพบ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ให้ตรวจสอบรูปภาพที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก โดยทนายษิทราระบุว่า มีตำรวจระดับนายพล 2 นาย นำเงินของสารวัตรซัว จำนวน 6 ล้านบาท ไปมอบให้นายชูวิทย์ที่โรงแรมเดวิส

นายอัจฉริยะ กล่าวก่อนเข้าพบตำรวจว่า ตนต้องการพิสูจน์ความจริงเรื่องเงินของสารวัตรซัว 6 ล้านบาท ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อเช้านี้ (27 มี.ค.) ได้ไปยื่นเรื่องที่กองบังคับการปราบปรามให้ตรวจสอบแล้ว แต่เมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้สุด โดยภาพนี้ ทนายษิทรา ระบุว่าเหตุเกิดขึ้นที่โรงแรมเดวิส แต่นายชูวิทย์พูดไม่ตรงกัน บอกว่าไม่ใช่ที่โรงแรมเดวิส ตนจึงต้องนำภาพนี้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ให้ทำการตรวจสอบว่า เหตุเกิดที่โรงแรมเดวิสหรือไม่ อย่างไร

นอกจากนี้ จะให้ดำเนินคดีกับบุคคลในภาพด้วย ซึ่งตอนนี้ตนรู้แล้วว่าคนในภาพคือใคร โดยคนซ้าย คือ ศักดิ์ พระราม 3 ซึ่งเป็นเจ้าของบ่อนที่เป็นลูกน้องของสารวัตรซัว ส่วนคนขวา คือ พล.ต.ท. ป.(นามสมมุติ) ส่วน พล.ต.อ. ร.(นามสมมุติ) น่าจะอยู่ด้านใน รูปนี้เป็นการถ่ายรูปพร้อมถุงเงิน เพื่อรายงานเจ้าของเงินคือสารวัตรซัวว่า ได้นำเงินมาให้แล้ว ซึ่งตนต้องการให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้ว่า ภาพนี้เกิดขึ้นวันที่เท่าไหร่ มีการนำเงินมาให้จำนวนเท่าไหร่  และเป็นเงินของสารวัตรซัวจริงหรือไม่ ซึ่งเดี๋ยวจะรู้กันว่าใครพูดจริงใครพูดเท็จ ยืนยันว่าตนมาแบบเป็นกลาง ไม่ได้เข้าข้างใคร ใครพูดจริง ใครพูดไม่จริง ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ทำการตรวจสอบ

ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้งสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. ระบุว่า เตรียมจะเข้าแจ้งความเอาผิดตน เพราะสิ่งที่กล่าวหาไม่ใช่เรื่องจริงนั้น นายอัจฉริยะ ระบุว่า ให้ฟ้องได้เลย จะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ก็ได้ ให้ไปสู้กันในศาล และตนยังมีภาพความลับของ พล.ต.ต.เอกรักษ์ อีกเยอะ ถ้าไม่แน่จริง ตนคงไม่กล้ามาแจ้งความรองเลขาธิการ ปปง. ตนกลัวแต่ว่าจะไม่กล้าฟ้องจริง และขอบอกไว้เลยว่า อย่าลาออกเพื่อหนีความผิด