เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่สำนักการศึกษา เขตคลองสาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารสำนักการศึกษา ในกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร ว่า เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำของเมือง กทม. เน้นสำนักการศึกษา สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ โดยเฉพาะสำนักการศึกษา ปัจจุบัน กทม. รับผิดชอบนักเรียนในสังกัดประมาณ 250,000 คน เท่ากับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และยังมีโรงเรียนเอกชน ที่ดูแลนักเรียนอีกประมาณ 3 แสนคน รวมทั้งหมดมีนักเรียนประมาณ 1 ล้านคน ในกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ กทม. เน้นส่งเสริมด้านการเรียนดี ประกอบด้วย 6 มาตรการ คือ 1. สร้างบริการขั้นพื้นฐานให้กับนักเรียนทั่วไป และนักเรียนพิเศษอย่างทั่วถึง เช่น ค่าอาหาร และตำราความรู้ต่างๆ 2. พัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ให้ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการในอนาคต 3. เปิดโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนหลายรูปแบบมากขึ้น 4. พัฒนาพื้นที่นวัตกรรม สร้างต้นแบบ 58 โรงเรียน 5. ปลดล็อกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้มีเวลาอยู่กับนักเรียนมากขึ้น เช่น นำบุคลากรด้านธุรการมาช่วย ปรับกระบวนการขอวิทยฐานะให้สะดวกมากขึ้น 6. พัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษาให้เข้มแข็งขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้ง 6 ด้าน กทม. ได้ดำเนินการทุกด้านและเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

ด้าน นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ด้านสวัสดิการพื้นฐาน กทม. ดำเนินการ เช่น เรื่องค่าอาหารเช้า อาหารกลางวัน เน้นสลัดบาร์ 3 วันต่อสัปดาห์ ค่าชุดนักเรียน ค่าผ้าอนามัยฟรี โดยปีงบประมาณ 2567 ตั้งเป้าให้นักเรียนทั้งหมด 18,000 คน เฉลี่ย 1 คนต่อผ้าอนามัย 3 ชิ้นต่อวัน รวมถึงการปรับหลักสูตรตามสมรรถนะให้สอดคล้องกับทักษะจำเป็นในศตวรรษที่ 21

ประกอบด้วย 1. เพิ่มโรงเรียนสอนภาษา 5 โรงเรียน สอนภาษาต่างๆ เช่น อังกฤษ จีน รวม 5 วิชา 2. อบรมเพิ่มความสามารถครูคนไทยที่สอนภาษาอังกฤษทั้ง 437 โรงเรียน ในสังกัด กทม. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสอน 3. เพิ่มการเรียนภาษาจากครูต่างชาติผ่านระบบออนไลน์และเทคโนโลยี 4. เพิ่มการเรียนรู้แบบเปิด โดยในปี 2567 ตั้งเป้านำหลักสูตรโรงเรียนวันเสาร์ที่เริ่มนำร่องไว้ 50 โรงเรียน มาบรรจุเป็นหลักสูตรหลักในโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้งหมด 5. จากการนำโรงเรียนในสังกัด กทม. 58 โรงเรียน เข้าร่วมโครงการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาร่วมกับสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด พบว่า มี 19 โรงเรียนสนใจด้านอาชีพ รองลงมาคือ English Program รวมถึงเรื่องปฐมวัยและเทคโนโลยีตามลำดับ กทม. จะนำไปปรับหลักสูตร และขยายผลให้เหมาะสมกับนักเรียนต่อไป

6. ร่วมกับกูเกิล เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้ ผ่านเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ปัจจุบันนำร่องแล้ว 1 โรงเรียน และในปี 2567 จะขยายเพิ่มเป็น 11 โรงเรียน 7. พัฒนาระบบอินเทอร์เน็ตในห้องคอมพิวเตอร์ทุกโรงเรียนในสังกัด กทม. ให้ครบภายในเดือน ก.ย. 66 8. เพิ่มครู เพิ่มทุนเอราวัณ พัฒนาโครงการครูคืนถิ่น รวมถึงการปรับขบวนการปรับวิทยฐานะให้คล่องตัวขึ้น เพื่อลดปัญหาขาดแคลนครู 9. การปรับด้านกายภาพโรงเรียนทั้ง 50 เขต ตามปีงบประมาณ 2567.