เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ตลิ่งชัน นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาคดี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ โจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว กับพวกรวม 7 คน ข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ-ความผิดต่อเสรีภาพฯ

กรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รวมทั้ง ชุดจับกุมและ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กับพวก รวม 7 คน มีการวางแผนล่อลวงให้รับเงิน และยังมีการเผยแพร่ข้อมูลบันทึกวิดีโอให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง

โดยวันนี้ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ไม่ได้เดินทางมายังศาล มีเพียง นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความ ที่เดินทางมา

ภายหลังลงมาจากห้องพิจารณาคดี นายราชันย์ ทนายความ เปิดเผยว่า ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. ได้ส่งรายงานข้อเท็จจริงการจับกุมให้แก่ศาล เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา เวลา 15.50 น. ทั้งที่ศาลมีคำสั่งให้บช.ก ส่งเอกสารให้ชี้แจงไปตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. และครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งในความเห็นของตนไม่ได้มองว่าเป็นการประวิงเวลา แม้จะส่งเกินกรอบเวลาแต่ยังอยู่ในช่วงเวลาที่ศาลรับได้ ซึ่งขณะนี้ตนเองยังไม่ได้คัดถ่ายสำเนารายงานการจับกุมของ บช.ก. เนื่องจากรายงานดังกล่าวมีการคาบเกี่ยวกับคดีที่ ป.ป.ช.กำลังดำเนินการอยู่

ศาลจึงมีคำสั่งให้โจทก์ยื่นคำคัดค้านรายงานการชี้แจงของ บช.ก. ภายในวันที่ 10 พ.ค.นี้ และนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟัองหรือไม่ในวันที่  30 พ.ค.นี้

นายราชันย์ กล่าวต่อว่า โดยทีมกฎหมายเตรียมพยานหลักฐานไว้แล้ว 30 รายการ ทั้งพยานเอกสาร พยานวัตถุ และพยานบุคคลอยู่ในเหตุการณ์วันจับกุม หากศาลประทับรับฟ้องก็พรัอมสู้คดี ส่วนการพิจารณาคดีทางแพ่งด้วยหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา.