เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นเกียรติในพิธีลงนามในบันทึก(MOU)ว่าด้วยความร่วมมือในการเพิ่มประสิทธิภาพของการลดความเสี่ยงในการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติในกรุงเทพมหานคร ระหว่างกรุงเทพมหานครและเวเธอร์นิวส์ อิงค์ โดยมีนายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. ลงนามร่วมกับนายซาวาโตะ ฮายาชิ กรรมการผู้จัดการอาวุโส เวเธอร์นิวส์ อิงค์ และนายไดสุเกะ อาเบะ กรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการและการพัฒนาบริการ เวเธอร์นิวส์ อิงค์ โดยมี นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายยุยชิ โฮบะ อัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ ผู้บริหารเวเธอร์นิวส์ อิงค์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี

นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น ปัญหาน้ำท่วมขัง ถือเป็นปัญหาที่มีความสำคัญและต้องได้รับการแก้ไขในระดับต้นๆ การนำระบบการพยากรณ์และเตือนภัยเข้ามาใช้ จะทำให้สามารถประเมิน และคาดการณ์สถานการณ์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนกรุงเทพฯว่า ปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติจะได้รับการแก้ไขในระยะเวลาอันรวดเร็วและทันท่วงที โดยเวเธอร์นิวส์ อิงค์ ให้การสนับสนุนกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้นำเรดาร์ตรวจอากาศ อุปกรณ์ตรวจวัดสภาพอากาศ และกล้อง CCTV รวมทั้งการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ และการเชื่อมโยงข้อมูลให้กับกรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีความต่อเนื่องต่อไปในอนาคต
สำหรับขอบเขตความร่วมมือในบันทึกข้อตกลงฯ ซึ่งหน่วยงานทั้งสองจะร่วมกันส่งเสริมและพัฒนา ประกอบด้วย 1. การเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาขีดความสามารถ โดยการเข้าร่วมการวิจัยและพัฒนาร่วมกันในการดำเนินการระบบการคาดการณ์โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ 2. การเพิ่มประสิทธิภาพในการสังเกตการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาผ่านการติดตั้งเครือข่ายการสังเกตการณ์ที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งประกอบด้วย เรดาร์ตรวจอากาศชนิดเอ็กซ์แบนด์ (EAGLE Radar) กล้องเว็บแคม และเซ็นเซอร์ไอโอทีในพื้นที่สวนอุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมายในกรุงเทพมหานคร 3. การแลกเปลี่ยนข้อมูลและสารสนเทศที่สังเกตได้และจัดทำขึ้นโดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย

โดยกิจกรรมของโครงการมีดังนี้ 1. ติดตั้งเรดาร์ตรวจอากาศ EAGLE RADAR ชนิด X-band รัศมีการตรวจวัดประมาณ 60 กม.ณ อาคารสำนักการระบายน้ำ บึงหนองบอน 2. ติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อติดตามสภาพอากาศ เช่น ลักษณะเมฆ สภาพอากาศในปัจจุบัน จำนวน 3 ตัว เพื่อให้สามารถติดตามสภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้อย่างครอบคลุม 3. ติดตั้งสถานีตรวจวัดอากาศ จำนวนทั้งสิ้น 6 จุด เพื่อทำหน้าที่ตรวจวัด ความกดอากาศ (barometric pressure) , ความชื้น (humidity) , ปริมาณน้ำฝน (rainfall) , รังสีแสงอาทิตย์ (solar radiation) , อุณหภูมิ (temperature) , ทิศทางและความเร็วลม (wind direction and speed) โดยจะกระจายครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯได้อย่างทั่วถึง และสามารถนำข้อมูลเข้าระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ การดำเนินงานของระบบ คือ จะนำเข้าข้อมูลเรดาร์ของกทม. จำนวน 2 แห่ง (เรดาร์หนองแขมและเรดาร์หนองจอก) และ ข้อมูลเรดาร์ที่ติดตั้งเพิ่มเติม จากโครงการนี้ ร่วมกับ ข้อมูลการตรวจวัดอากาศ จากสถานีตรวจวัดอากาศ เข้าสู่ระบบ Cloud ของเวเธอร์นิวส์ อิงค์ จากนั้นจะใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ AI-Nowcasting ในการประมวลผล เพื่อทำการคาดการณ์ฝน โดยสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ 3 ชั่วโมง และอัพเดทข้อมูลทุกๆ 5 นาที และเชื่อมต่อข้อมูลให้กับกทม.โดย API (Application Program Interface) เพื่อให้ข้อมูลทั้งสองส่วนสามารถเชื่อมโยงและเกิดการประมวลผลที่มีความแม่นยำ มีประสิทธิภาพ โดยจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝนให้ประชาชนทราบล่วงหน้า และสามารถสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถเตรียมพร้อมภารกิจในการดูแลพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างทันท่วงที เพื่อลดผลกระทบและความเดือดร้อนที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชนชาวกรุงเทพฯ.