ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างมากมายสำหรับประเด็นร้อนในโลกออนไลน์เกี่ยวกับแฮชแท็ก แบนสุพรรณหงส์ ที่อยู่บนโลกทวิตเตอร์ โดยเป็นเรื่องการของคนทำหนังทุกฝ่ายที่มองว่าเกณฑ์การตัดสินใจรางวัลสุพรรณหงส์ของคนทำหนังในปีนี้ดูเอื้อค่ายใหญ่ และเป็นการกีดกันค่ายหนังเล็กเพราะมีการเปลี่ยนหลักเกณฑ์ในการตัดสินเข้าชิง ทำให้หลายๆ ภาพยนตร์ไม่ผ่านเกณฑ์การตัดสิน จนเกิดการประกาศแบนของคนทำหนังมากมาย ซึ่งเป็นประเด็นที่คนทั้งประเทศวิจารณ์อย่างร้อนแรง ล่าสุดรายการโหนกระแส ได้เชิญคนทำหนังอย่าง คุณชายอดัม-เฉลิมชาตรี ยุคล, กอล์ฟ ธัณวรินทร์, นุชี อนุชา บุญยวรรธนะ นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย และ นายพรชัย ว่องศรีอุดมพร เลขธิการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ มาร่วมถกประเด็นนี้กันอย่างดุเดือดพร้อมหลายประเด็นที่ทำให้คนอยากรู้ทางออกหนักมาก

พรชัย เผยว่า “ถามมีสิทธิยกเลิกเกณฑ์ไหม มีสิทธิ ถ้าที่ประชุมโอเคตัดทิ้งก็จบ เอาจริงๆ นะผมว่าเวลาแก้ปัญหาอย่าแก้ปัญหาเดียว เพราะสตรีมมิ่งมันมาแล้ว ถ้าเราช่วยคนทีเดียวได้หมด จะดีที่สุด อย่าช่วยคนกลุ่มเดียว ถ้าเราช่วยแก้กฎเลยดีกว่า ถ้าผู้ทำหนังเขาไม่โอเคแบนผลกระทบคือคนไม่มารับรางวัล นั่นแรงที่สุด คือคนในอุตสาหกรรมมีแค่นี้ วันนี้ผมว่าประเด็นไม่ลุกลามไปขนาดนั้น ถ้าเราคุยด้วยเหตุผล ทุกคนมีความหวังดีอยากให้ภาพยนตร์เดินไปข้างหน้า มุมของสมาชิกมีความสามัคคี เราสร้างสังคมที่ดีได้ เราต้องการเอาคอนเทนต์สร้างสังคมไทยให้อยู่ดีกินดีได้ยังไง เป็นปณิธานที่ควรยึดถือ”

คุณชายอดัม เผยว่า “หนังทุกเรื่องควรมีสิทธิไปอยู่ในเวทีของการประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ มีคนถามว่าสำคัญเหรอ มันเป็นสิทธิที่พึงมี ผ่านการดูแลของสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ในวงการหนังไม่มีใครคิดว่าหนังใครดีกว่ากันหรอก ผมก็ไม่ได้คิดว่าหนังผมดีกว่าพี่กอล์ฟ แต่รางวัลนี้มันเป็นขวัญและกำลังใจ คนในวงการนี้ทำงานหนักมากไม่มีคนสนใจ คนเบื้องหลังเขาอดหลับอดนอน ทำงานเต็มที่ ในขณะที่คนมองว่าเต้นกินรำกิน มีภาพในสื่อเยอะ แต่มันเหนื่อยจริงๆ แต่ถ้าคนคนหนึ่งมองว่าคนที่ทำงานแบบนี้ มันไม่อยู่ในการซัพพอร์ตแบบนี้ผมว่ามันไม่ควรเรียกรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ”

กอล์ฟ เผยว่า “แน่นอนเราเป็นคนเคยโดยมาก่อน มันมีคำถามเยอะ เราต่อสู้ให้มี พ.ร.บ.ภาพยนตร์ ปี 51 ผู้กำกับมีสิทธินำเสนอความคิดผ่านภาพยนตร์ เราก็คิดว่ากรอบศีลธรรมอันดีมันอยู่ตรงไหน แล้วคณะกรรมการเรตติ้งไม่กี่คนคิดแทนคนทั้งประเทศได้เหรอ แล้วคนไทยคิดไม่ออกเหรอว่าสิ่งที่นำเสนอบนภาพยนตร์มันคืออะไร อย่างกรณีหนังหุ่นพยนต์ การใช้ดุลพินิจคิดของคนไม่กี่คน คิดแทนทั้งประเทศ อย่างที่ท่านมุ้ยบอกสิ่งที่เราเห็นผ่านหนังยังเบากว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมเลย ฉากเณรกอดแม่นะ มันคือการใส่ชุดเณรไปกอดแม่ เพื่อปกป้องแม่ ทำไมคนดูคิดไม่ออกเหรอ เหมือนดูถูกคนดูมาก ที่มาแบนไม่ให้ฉากเล่านี้ผ่าน กรรมการไม่มีสิทธิบอกควรตัดฉากนี้ๆ มันไม่ควรมีกฎหมายซ้ำซ้อน”

หนุ่ม กรรชัย เผยว่า “ระหว่างพักมีสายต่อตรงมาหาผม และพูดว่าทำไมมองประเด็นหนังเล็กแล้วไม่ให้โอกาสเขา เรากำลังพูดคุยกันอยู่ ขนาดหนังสุริโยทัยเอง ผมเอาเข้าประกวดยังไม่ให้ประกวดเลย เพราะจะไปรังแกหนังเล็ก (ยิ้ม) ผมเองก็โดนนะ เรื่องการห้ามนำเสนอข่าวนี้ๆ อย่างโจรฆ่าคน อย่าไปนำเสนอ เขายังเป็นผู้บริสุทธิ์ศาลยังไม่ตัดสิน แล้วเกิดไปฆ่าอีกคนทำไง พูดแล้วจี้ใจผมมาก”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากโหนกระแส