เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 22.00 น. วันที่ 1 เม.ย. ร.ต.อ.สาลี ดวงอุประ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในห้องเช่าเลขที่ 21/2 หมู่ 6 ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ชุดสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ ที่เกิดเหตุอยู่ในห้องเลขที่ 9 พบศพนายวัชรินทร์ หรือหนิง ไกรเกตุ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 3 ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก สวมเสื้อยืดคอกลมสีฟ้า นุ่งกางเกงบ็อกเซอร์สีน้ำเงิน นอนหงายจมกองเลือด มีแผลถูกแทงเข้ากกหูขวาและชายโครงขวา ภายในห้องยังพบร่องรอยการต่อสู้

จากการสอบสวน น.ส.กาญจนา เตื่อยตุ่น อายุ 39 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า เป็นลูกสะใภ้ของเจ้าของห้องเช่า ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายณรงค์ฤทธิ์ หรือโบ้ โพนกระโทก อายุ 32 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างร้านผลไม้อยู่ในตลาดไทยเจริญตลาดกลางผลไม้ จ.พิษณุโลก เช่นเดียวกับผู้เสียชีวิต และที่สำคัญคือทั้งคู่ยังเป็นเพื่อนรักกันด้วย ก่อนเกิดเหตุนายมือมีดขี่รถจักรยานมาทวงเงินที่เข้าใจว่าผู้เสียชีวิตแอบขโมยไป แต่เหตุการณ์กลับบานปลายกลายเป็นการทะเลาะวิวาทชกต่อยกันชุลมุน จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุสู้ไม่ได้จึงชักอาวุธมีดที่พกมากระหน่ำแทงดังกล่าว ก่อนรีบหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

หลังได้เบาะแสชุดสืบสวนจึงรีบติดตามไปจับกุมผู้ก่อเหตุได้ขณะซ่อนตัวอยู่ในตลาดไทยเจริญ ซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยสาเหตุเกิดจากความโกรธแค้น เพราะทราบว่าผู้เสียชีวิตแอบขโมยเงินจากน้ำพักน้ำแรงไป 2,000 บาท จากนั้นจึงควบคุมตัวไปบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ รวมถึงหาของกลางอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 4 นิ้ว ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่าโยนทิ้งในพงหญ้าริมถนนหน้าบ้านเช่าเกิดเหตุ แต่หลังใช้เวลาอยู่พักใหญ่กลับไม่พบอาวุธสังหาร เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.