เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ร.ต.อ.วีระศักดิ์ ทองบ่อ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางนา รับแจ้งเหตุยิงกันตายและมีผู้บาดเจ็บ ภายในบ้านเลขที่ 98/217 ถนนสรรพวุธ แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.มนต์เสก ตระกูลพานิชย์ ผกก.สน.บางนา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ และมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น พบศพ นายนัท (นามสมมุติ) พลทหารอาสาสมัคร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเยื้องๆฝั่งตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ สภาพนอนคว่ำจมกองเลือด ถูกยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด ใกล้กันพบปืนลูกโม่ ขนาด .38 มม. ภายในรังเพลิงพบปลอกกระสุน 2 ปลอก กระสุน 4 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ยังมีคนเจ็บอีกหนึ่งรายทราบชื่อ ด.ญ.ยิ้ม (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นร.ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันเข้าขมับซ้ายทะลุท้ายทอย อาการสาหัส ถูกนำส่ง รพ.ไทยนครินทร์

สอบสวนยายของน้องผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้การว่า คนตายเป็นลูกชายนางประยูรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ซึ่งนางประยูรณ์เคยรับจ้างเลี้ยงน้องยิ้ม มาตั้งแต่เด็ก 2-3 ขวบ คนตายชอบพอและตามจีบน้องยิ้มมาตั้งแต่น้องอายุ 11 ขวบ แต่น้องไม่ชอบ ไม่เล่นด้วย จึงตามตื้อเรื่อยมา ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและนางประยูรณ์ รวมถึงน้องยิ้มได้เดินมามานั่งพูดคุยเรื่องดังกล่าวภายในบ้านตนเอง ซึ่งตนบอกไปว่าน้องอายุยังน้อย ต้องการให้เรียนหนังสือให้จบ มีงานทำ แล้วค่อยมีแฟน ส่วนน้องยิ้มก็ตอบปฏิเสธผู้ตายด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้ตายโมโหชักปืนออกมาจากเอวยิงน้องยิ้ม 1 นัด และใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเอง 1 นัด ตายตาม ตนกับนางประยูรณ์ตกใจ ก่อนร้องให้เพื่อนบ้านมาช่วยเหลือ แต่ไม่ทันการณ์แล้ว

ด้านนางประยูรณ์ กล่าวว่า ลูกชายเป็นพลทหารอากาศอาสาสมัครประจำอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงหลังมีอาการเป็นโรคซึมเศร้า กลับมาพักที่บ้านหลายเดือนแล้ว ตนรู้ว่าลูกชายชอบน้องยิ้ม แต่เคยห้ามเพราะเห็นน้องยังเด็กอยู่ ส่วนลูกชายก็ตามจีบเรื่อยมา ก่อนเกิดเหตุชักชวนตนไปพูดคุยกับน้องยิ้ม เนื่องจากมีปัญหาเรื่องตามจีบกัน เห็นว่าเป็นเด็กที่ตนเคยรับเลี้ยง เห็นกันมาแต่เด็กและเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน กลัวมองหน้ากันไม่ติด จึงมาเจรจาพูดคุย ไม่คิดว่าลูกชายพกปืนมาด้วยและมาก่อเหตุสลด

ขณะที่ พ.ต.อ.มนต์เสก กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อพบว่าผู้ก่อเหตุยิงตัวตายเสียชีวิต คดีความตาม ป.วิอาญา ก็ต้องสิ้นสุดลง ส่วนน้องยิ้มถ้าไม่เสียชีวิต ตนจะเรียกญาติทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยการเยียวยาเรื่องที่เกิดขึ้นต่อไป.