เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงความคืบหน้าการเตรียมจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ว่า จากการเปิดให้ประชาชนชาวไทยในต่างประเทศลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนดังกล่าวแล้วจำนวน 72,779 คน โดยยังเปิดให้มีการลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 9 เม.ย. นี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางกระทรวงฯ ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านหลายช่องทางอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชิญชวนคนไทยในต่างประเทศให้มาใช้สิทธิการเลือกตั้งดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผู้ใดที่ประสบปัญหาในการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทย หรือสถานกงสุลใหญ่ไทยได้โดยตรง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ ช่วยกรอกข้อมูลต่างๆ ในการลงทะเบียน
อธิบดีกรมการกงสุล อีกว่า สำหรับการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในแต่ละประเทศ จะแตกต่างกันไปตามความเหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดไว้ว่าสามารถดำเนินการเลือกตั้งได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ การเลือกตั้งภายในคูหา การเลือกตั้งทางไปรษณีย์ หรือการเลือกตั้งรูปแบบอื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม แต่หากในประเทศใดเกิดการประท้วงหรือภัยพิบัติ กกต. ได้กำหนดให้เอกอัครราชทูตไทยมีอำนาจในการตัดสินใจ แต่ต้องแจ้งเหตุจำเป็นต่อกระทรวงการต่างประเทศเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น จึงมั่นใจว่าการเดินทางของคนไทยในต่างประเทศที่ประสงค์เลือกตั้งจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
นายรุจ ยังกล่าวถึงการจัดส่งบัตรเลือกตั้งกลับสู่ประเทศไทย ว่า เราได้จัดทำระบบเฝ้าติดตามการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร (โอวีเอ็มเอส) จะทำให้ส่วนกลางสามารถติดตามสถานการณ์การส่งบัตรเลือกตั้งจากประเทศต่างๆ กลับสู่ประเทศไทยได้ ซึ่งจะป้องกันปัญหาบัตรเลือกตั้งถูกส่งกลับมาไม่ทันกำหนด ทั้งนี้มีบางประเทศที่ระบบขนส่งของสายการบินมีความยากลำบาก อาทิ ประเทศในทวีปแอฟริกา และภูมิภาคลาตินอเมริกา ที่การเดินทางตามปกติต้องใช้เวลา 14-15 ชั่วโมง เพราะต้องต่อเครื่องบินหลายที่ สำหรับกรณีของประเทศนิวซีแลนด์ ที่เคยเกิดเหตุการณ์บัตรเลือกตั้งถูกส่งกลับมาไม่ทันกำหนดเมื่อปี 2562 นั้น ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะนำบัตรเลือกตั้งจากกรุงเวลลิงตัน ส่งไปยังนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เพื่อส่งขึ้นเครื่องบินของสายการบินไทยกลับมาที่ประเทศไทย โดยได้มีการประสานงานกับสายการบินไทยที่นครซิดนีย์แล้ว เพื่อวางระบบรับบัตรเลือกตั้งให้มีความรวดเร็ว และเมื่อบัตรเลือกตั้งจากประเทศต่างๆ ถูกส่งมาถึงประเทศไทยแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อรับบัตรเลือกตั้งดังกล่าว แล้วนำไปที่ศูนย์ไปรษณีย์โทรเลข เพื่อส่งให้ทันก่อนเริ่มการเลือกตั้งในประเทศไทย จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาเหมือนกับปี 2562 อีก