ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน เวลา 22.30 น. คู่บิ๊กแมตช์ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ยังมีลุ้นไปเตะถ้วยยุโรป มีอยู่ 43 แต้ม เปิดบ้านแอนฟิลด์เจอกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล จ่าฝูงที่มี 72 แต้ม

เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ไม่ชนะในลีกมา 3 นัดติดแต่เป็นเกมเยือนทั้งหมด แต่เกมในบ้านแกร่งชนะ 5 เสมอ 1 จาก 6 นัดหลังสุด สภาพทีมดีขึ้นเมื่อ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ หายป่วยพร้อมคืนตัวจริง ติอาโก อัลคันทารา ก็กลับมาซ้อมได้เต็มรูปแบบ แต่ หลุยส์ ดิอาซ ยังต้องพักเรียกความฟิตต่อไป

เกมรุกนำโดย โม ซาลาห์, โคดี กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ ตรงกลางจอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ, ฮาร์วีย์ เอลเลียต ขณะที่ สเตฟาน บาจ์เซติช, คัลวิน แรมเซย์ และ นาบี เกอิตา บาดเจ็บทั้งหมด กองหลัง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต, ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

มิเกล อาร์เตตา กุนซืออาร์เซนอล ชนะในลีกมา 7 นัดรวด เผยว่า มีลูกทีมใกล้กลับมาซ้อมได้แต่ไม่บอกว่าเป็น เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ หรือ วิลเลียม ซาลิบา นอกนั้นสภาพทีมเดิมๆ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ บาดเจ็บพักยาวตั้งแต่ก่อนหน้านี้

แนวรับ เบน ไวท์, ร็อบ โฮลดิง, กาเบรียล มากัลเญส, โอเลคซานเดอร์ ซินเชนโก ตรงกลาง โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชากา, มาร์ติน โอเดการ์ด แนวรุก เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ยิงแฮตทริกให้ ไบรท์ตัน บุกเสมอ ลิเวอร์พูล 3-3 ต้นซีซั่น อาจได้ลงก่อน กาเบรียล มาร์ติเนลลี ทางขวา บูกาโย ซากา และ กาเบรียล เชซุส เป็นหน้าเป้า

สถิติเจอกัน อาร์เซนอล ไม่ชนะที่แอนฟิลด์มาตั้งแต่ปี 2012 ในสมัยที่ อาร์เตตา ยังเป็นนักเตะ”ปืนใหญ่” โดย ลิเวอร์พูล ชนะ อาร์เซนอล 6 เกมเหย้าหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ยิงได้อย่างน้อย 3 ประตูในแต่ละเกม (รวม 22 ประตู)

อีกคู่ เวลา 20.00 น. ลีดส์ ยูไนเต็ด – คริสตัล พาเลซ