เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ร.ต.อ.รัฐพงศ์ ศรีนอก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุมีตำรวจถูกยิงเสียชีวิต ภายในบ้านพักข้าราชการตำรวจ ซึ่งตั้งอยู่ข้างกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 5 ชั้น เจ้าหน้าที่ได้กั้นสื่อมวลชน และผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปจุดเกิดเหตุ ทราบว่าห้องที่เกิดเหตุอยู่ชั้นที่ 5 ภายในห้องได้พบศพนายตำรวจศพ ด.ต. อายุ 37 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สภาพศพสวมกางเกงขาสั้นไม่สวมเสื้อ ตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนเข้าที่บริเวณ หลังหูขวา 1 นัด ต้นขาซ้าย 1 นัด หน้าอก 2 นัด นอนหงายจมกองเลือดเสียชิตอยู่ภายในห้องดังกล่าว ใกล้กันพบปืนออโตเมติกขนาด 9 มม. ตกอยู่ 2 กระบอก และปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่ 4 ปลอก และมีมีดทำครัวตกอยู่ข้างศพ 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุคือภรรยาของผู้ตาย อายุ 33 ปี ตามตัวและเสื้อผ้าพบว่ามีคราบเลือดติดอยู่จำนวนมาก นั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่หน้าห้อง ในสภาพไม่พร้อมให้การ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปสงบสติอารมณ์รอการสอบสวน
ด้าน พ.ต.อ.ปิยวุฒิ แก้วมณี ผกก.บก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้เปิดเผยว่า ผู้ตายแต่งงานอยู่กินกับภรรยานานแล้ว ระหว่างที่พักอาศัยอยู่ในห้อง ทราบข้อมูลว่าทั้งคู่ชอบมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง เรื่องปัญหาครอบครัวและหึงหวง เนื่องจากไม่พอใจในพฤติกรรมของฝ่ายชาย กระทั่งเช้านี้ทั้งคู่มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่เพื่อนรวมงานที่อยู่ข้างห้องได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดออกมาจากในห้อง จึงมาเคาะประตูเรียกนานกว่า 10 นาที กระทั่งพบฝ่ายหญิงเปิดประตูออกมาในสภาพตัวเปื้อนและพบร่างของ ด.ต. นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่กับพื้นห้อง จากการสอบถามภรรยาผู้ตาย ยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุยิงสามีจริง เนื่องมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนจะเกิดการยื้อแย่งปืนกัน กระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว ผู้ก่อเหตุเอาไว้เพื่อสงบสติอารมณ์รอการสอบสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้สภาพจิตใจยังไม่พร้อมให้การ ส่วนประเด็นน่าจะมาจากเรื่องปัญหาภายในของครัว ส่วนศพของผู้ตายได้มอบให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลรามาสมุทรปราการ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.
