เมื่อวันที่ 17 เม.ย. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยผลการปฏิบัติการเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า ภายใต้ชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน Airport Interdiction Task force หรือ AITF ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. กรมศุลกากร กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัย ได้จับกุมหญิงสัญชาติเคนยา อายุ 45 ปี พร้อมของกลางโคเคน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 1,250 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสัมภาระล้อลาก โดยทำเป็นช่องลับที่พื้นด้านหลังของกระเป๋าสัมภาระ เดินทางจากกรุงไนโรบี (เคนยา)-กรุงโดฮา (กาตาร์)-สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ จากนั้นได้ประสานการจับกุมครั้งนี้ มายังสำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อสืบสวนขยายผลไปยังผู้สั่งการ

นายวิชัย เผยต่อว่า จากกรณีดังกล่าว จึงสั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด เร่งสืบสวนขยายผลผู้สั่งการ โดยชุดปฏิบัติการ AITF สืบสวนขยายผลก่อนพบข้อมูลที่ผู้สั่งการได้นัดหมายให้ผู้ต้องหาไปพบที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านสาทร กรุงเทพฯ เพื่อรับยาเสพติด แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ขยายผล ผู้สั่งการไหวตัวทันและไม่ติดต่อกับผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ได้ทราบเบาะแสผู้สั่งการแล้วบางส่วนและจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนขยายผลทั้งเครือข่าย

นายวิชัย เผยอีกว่า พบแนวโน้มการลักลอบนำโคเคนเข้าประเทศสูงขึ้น หลังจากการเปิดประเทศทั้งในประเทศไทย และประเทศอื่นทั่วโลก โดยเมื่อต้นเดือนเมษายน พบการจับกุมในลักษณะเดียวกัน โดยชุดปฏิบัติการ AITF จับกุมหญิงไทยวัย 28 ปี เดินทางจาก อิสตันบูล ประเทศตุรกี พร้อมโคเคน 2,352 กรัม ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางโดยทำเป็นช่องลับ จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่นำเข้าโคเคนเกือบทั้งหมด พบว่ามีผู้สั่งการจ้างวานเป็นกลุ่มอาชญากรรมชาวแอฟริกันตะวันตก ทั้งนี้ เพราะโคเคนจำกัดกลุ่มการใช้เฉพาะในกลุ่มผู้มีฐานะ ในกลุ่มนักท่องเที่ยวกลางคืน หรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ส. จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวาดล้างทั้งเครือข่ายต่อไป.