กลายเป็นเหตุการณ์ช็อกในวงการกีฬาโลก เมื่อเกิดเหตุวุ่นวายในศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2023 ที่ครูซิเบิล เธียเตอร์ ในเมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังมีกลุ่ม “Just Stop Oil” 2 คน ทำการประท้วงด้วยการบุกลงมาที่โต๊ะแข่งขันทั้ง 2 โต๊ะ จนทำให้เกมต้องหยุดลงชั่วคราว
ที่โต๊ะ 1 ซึ่งเป็นการเจอกันระหว่าง โจ เพอร์รี กับ โรเบิร์ต มิลกินส์ มีชายหนุ่มสวมเสื้อยืดสกรีนคำว่า “Just Stop Oil” บุกลงมาและปีนขึ้นไปบนโต๊ะ ก่อนโปรยผงแป้งสีส้ม อันเป็นสัญลักษณ์ของการประท้วงลงโต๊ะแข่งขัน
ขณะที่ในโต๊ะที่ 2 ซึ่งเป็นการเจอกันระหว่าง มาร์ค อัลเลน กับ ฟาน เจิ้งยี่ มีผู้ประท้วงเป็นสาวใหญ่ บุกลงมาและพยายามปีนโต๊ะแข่งขันเช่นกัน แต่ถูกผู้ตัดสิน โอลิวิเยร์ มาร์เทียล จับตัวเอาไว้ได้ก่อน
เหตุดังกล่าว ทำให้การแข่งขันต้องหยุดลงชั่วขณะ ก่อนที่คู่ของ อัลเลน กับ ฟาน เจิ้งยี จะกลับมาแข่งกันต่อได้ หลังผ่านไปราว 40 นาที ขณะที่คู่ของ เพอร์รี กับ มิลกินส์ ต้องเลื่อนไปแข่งขันกันต่อในวันอังคาร ขณะที่ผู้ประท้วงทั้ง 2 คน ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปโรงพักตามระเบียบ
ล่าสุด มีการเปิดเผยตัวตนของตัวป่วนทั้ง 2 ออกมาเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่า แต่ละคนดีกรีไม่ธรรมดา และต่างเคยถูกตัดสินจำคุกเพราะการประท้วงมาแล้ว
คนแรกคือผู้ชายที่ลงมาในโต๊ะ 1 แล้วขึ้นไปโปรยผงสีส้มบนโต๊ะ เขามีชื่อว่า อีเดรด วิตติงแฮม อายุ 25 ปี เป็นนักศึกษาสาขาการเมือง, ปรัชญา และเศรษฐกิจ อยู่ที่มหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์
วิตติงแฮม เคยถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 1 วัน เมื่อเดือน ก.ย. 2022 พร้อมๆ กับกลุ่มผู้ประท้วง “Just Stop Oil” อีก 50 คน หลังจากที่พวกเขารวมตัวกันไปปิดคลังน้ำมัน Kingsbury Oil Terminal ในวอร์วิคเชียร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลสูง
ด้านผู้ประท้วงอีกคนคือ มาร์กาเร็ต รีด คุณย่าของหลาน 2 คน ที่ปัจจุบันอายุ 52 ปี โดยเธอเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ประจำพิพิธภัณฑ์คัมเบรีย และอดีตครู ที่เกษียณแล้ว จากเซาธ์ คัมเบรีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ ติดกับสกอตแลนด์
รีด เป็นหนึ่งในคนที่ถูกจำคุก จากกรณีรวมตัวกันปิดคลังน้ำมัน เมื่อเดือน ก.ย. 2022 เช่นกัน แต่เธอโดนตัดสินจำคุกถึง 75 วัน เพราะทำผิดเป็นครั้งที่ 2 และเคยติดคุกมาแล้วครั้งหนึ่งในปีเดียวกัน
ที่น่าสนใจคือในการถูกจำคุกดังกล่าว รีด ยังเขียนจดหมายเรียกร้องความยุติธรรมส่งให้สื่อมวลชนจากในคุก ทำให้เธอประกาศหลังการประท้วงที่ครูซิเบิลว่า ไม่เกรงกลัวมากนักกับโทษที่จะโดนในครั้งนี้ และไม่เสียใจเลยกับสิ่งที่ทำลงไป
“ฉันคงไม่ถูกลงโทษหนักมากในครั้งนี้ แต่ฉันไม่สามารถเป็นผู้ชมที่นิ่งเฉยได้ ในขณะที่รัฐบาลของเรากำลังให้การสนับสนุนธุรกิจที่ทำกำไรได้มากที่สุดในโลก ทั้งๆ ที่เรากำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติเรื่องค่าครองชีพ ฉันไม่สามารถเป็นแค่ผู้ชมจากข้างสนามได้อีกต่อไป”.
