เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ร.ต.อ.พรเจตต์ พร้อมมูล รอง สว.(สอบสวน)สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี รับการประสานจาก พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.คลองหลวง พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจหาชิ้นส่วนมนุษย์ที่คาดว่าถูกทิ้งไว้ในซอยรังสิต-นครนายก 17 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี กระทั่งพบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกหั่นออกเป็น2ส่วน แบ่งทิ้ง 2 จุดภายในซอยดังกล่าว จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเขต 1 แพทย์ รพ.ประชาธิปัตย์ และ เจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญู ร่วมชันสูตร

จากการตรวจสอบเป็นถนนซอยเปลี่ยวเข้าออกได้หลายทางมีป่ากกขึ้นรก จุดแรกพบชิ้นส่วนมนุษย์ช่วงล่างตั้งแต่เอวถึงปลายเท้าถูกใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีแดงห่อด้วยผ้าห่มสีขาวที่เอวยังมีเข็มขัดหนังสีดำคาดอยู่ จุดที่สองห่างจากจุดแรกเข้าไปภายในซอยประมาณ 800 เมตร เป็นส่วนหัวตั้งแต่ศีรษะถึงเอวถูกหั่นใส่ถุงดำแล้วลำตัวถูกผูกด้วยเชือกฟางสีเหลืองใส่ไว้ในกระสอบสีขาวถูกทิ้งไว้ริมทาง โดยที่ศีรษะมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็ง 4 แห่ง เจ้าหน้าที่กันพื้นที่เพื่อหาหลักฐานอย่างละเอียด เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตนายมะแฮด เซ็ง อายุ 52 ปี ชาวอินเดีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างรอตรวจสอบชิ้นส่วนมนุษย์อยู่นั้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอีกชุดควบคุมตัวชายฉกรรจ์ลักษณะคล้ายคนอินเดียอีกคนโดยใส่กุญแจมือแน่นหนาเข้ามาในที่เกิดเหตุ สอบถามทราบเพียงชื่อนายรีวีปะกา ซิง อายุ 29 ปี สัญชาติอินเดีย ส่วนรายละเอียดเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเปิดเผยก่อนพาตัวไปชี้จุดทิ้งชิ้นส่วนมนุษย์ กระทั่งเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.คลองหลวง พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมส่วนเกี่ยวข้องเดินทางมาแถลงจับกุม นายรีวีปะกา พร้อมของกลางรถ จยย. 2 คัน ของผู้ตายและผู้ก่อเหตุ มีดอีโต้ 1 เล่ม และท่อนเหล็กยาว 50 ซม. โดยกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย

พล.ต.ท.อำพล เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากได้รับแจ้งจากน้องชายผู้ตายว่า พี่ชายได้หายตัวออกจากบ้านพักย่านคลองหลวง พร้อมรถ จยย. ตั้งแต่เมื่อช่วงสายวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 31 ส.ค.ยังไม่กลับบ้านเกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง สืบทราบว่าก่อนหายตัวไปมีการนัดพบกับผู้ต้องหาตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการสิ้นสุด (OVERSTAY) เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมาและประกันตัวออกมาจากศาลจังหวัดธัญบุรี และในวันที่ 30 ส.ค.ได้เดินทางไปขึ้นศาล ถูกตัดสินให้ผลักดันออกนอกราชณาอาจักร จากนั้นทาง ตม.จึงนำตัวมาฝากขังไว้ที่ สภ.คลองหลวง เพื่อรอผลักดันตามกระบวนการของกฎหมาย

พล.ต.ท.อำพล เผยอีกว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เบิกตัวผู้ต้องหามาสอบสวนกรณีการหายตัวของผู้ตาย โดยรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุ เพราะมีปัญหาพิพาทกันเรื่องที่ดินที่ประเทศอินเดีย และเชื่อว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเจ้าเมืองจับกุมกรณี OVER STAY ถึง 2 ครั้ง ผู้ตายเป็นคนแจ้งให้มาจับจึงเกิดความแค้น ก่อนเกิดเหตุเช้าวันที่ 29 ส.ค.ได้โทรศัพท์ชวนผู้ตายมาพูดคุยที่ห้องภายในซอยผาไท-ผาเมือง ซอยคลองหลวง 8 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แล้วอาศัยจังหวะเผลอใช้เหล็กตีศีรษะหลายครั้ง จากนั้นใช้มีดหั่นศพออกเป็น 2 ท่อน นำไปทิ้งริมถนนดังกล่าว และนำรถจักรยานยนต์คนตายไปจอดทิ้งไว้ที่ใต้สะพานลอยหน้าบริษัท บริสโตน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปเอารถ จยย.ผู้ตาย อีกทั้งมีหลักฐานวงจรปิดจากหอพักที่ปรากฏภาพผู้ตายครั้งสุดท้ายชัดเจน จึงควบคุมตัวดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป