เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติสหรัฐ ได้เผยแพร่รายงานการสืบสวนกรณีการประกาศภาวะฉุกเฉินของเครื่องบินสายการบินเดลตา เที่ยวบินจากกรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก ไปยังนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2565 มีผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 233 คน

ในรายงานระบุว่า ระหว่างการเดินทางไปยังนครนิวยอร์ก ทีมลูกเรือได้ประกาศภาวะฉุกเฉินบนเครื่อง จากนั้นก็ลดเพดานบินลงสู่ระดับที่ต่ำกว่าเดิม สืบเนื่องจากระบบการบินบางส่วนขัดข้อง

ทีมสืบสวนพบว่า น้ำเสียจากห้องสุขาบนเครื่องบินโบอิง รุ่น 767-300 เกิดรั่วไหลออกมา และมีบางส่วนที่แข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระบบการบินบางส่วนขัดข้องดังกล่าว

ทีมลูกเรือให้ข้อมูลว่า ระหว่างที่บินอยู่นั้น มีน้ำไหลนองออกจากห้องสุขาห้องหนึ่ง และชั้นกรองใต้ซิงค์น้ำของอีกห้องหนึ่งก็รั่วด้วย ทำให้ทีมลูกเรือต้องปิดการใช้งานห้องน้ำบางห้องและพยายามเช็ดน้ำออกจากพื้น

แต่ต่อมา ทีมนักบินก็พบว่า ระบบออโตไพล็อตของเครื่องถูกตัดขาดและไม่สามารถเชื่อมต่อเข้าไปใช้งานได้ ทีมนักบินยังพบปัญหาอื่น ๆ ของระบบบังคับทิศทางการหมุนของเครื่องบิน ซึ่งทำให้เครื่องบินค่อย ๆ เอนไปทางด้านขวา และไม่สามารถแก้ไขได้

หลังจากติดต่อกับศูนย์ควบคุมการซ่อมบำรุง ทีมนักบินก็ได้รับอนุญาตให้ลดเพดานบินลงจากเดิม 9,000 ฟุต ซึ่งเป็นระดับที่น้ำแข็งจะละลายกลายเป็นน้ำ

ในที่สุด เที่ยวบินดังกล่าว สามารถลงจอดที่สนามบินเจเอฟเคได้สำเร็จ หลังจากที่ทีมนักบินสามารถเปิดใช้งานระบบควบคุมล้อได้อีกครั้ง ที่ความสูงระดับ 12,000 ฟุต 

คณะกรรมการฯ ชี้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดจากความบกพร่องของทีมงานที่ไม่ได้ปิดเบรกเกอร์ระบบทำความร้อนของช่องระบายน้ำออกสู่ด้านนอก ในระหว่างการซ่อมบำรุงเครื่องก่อนขึ้นบิน น้ำที่ไหลออกมาท่วมจึงกลายเป็นน้ำแข็งเกาะ ทำให้ระบบควบคุมเพื่อกางล้อขณะลงจอดขัดข้อง 

หลังจากที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินเจเอฟเค ก็ถูกส่งเข้าโรงซ่อมบำรุงเรียบร้อยแล้ว

แหล่งข่าว : businessinsider.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES